Page 23 - เบญจมาศ คุชนี โรคเบาหวานและคุณประโยชน์ของผักพื้นบ้านไทย 2565
P. 23

10 | เ บ ญ จ ม า ศ  คุช นี    โ รคเบาหวานและคุณประโยชน์ของผักพ้นบ้านไทยในผ้ป่วยโ รคเบาหวาน | 11 | 11
                                                                       ู
                                                          ้
                                                        ื ก พ น บ้ าน ไท ย ใ น ผู ป่ ว ย โ ร ค เ บ าห ว าน
                     โรค เ บ า ห ว า น แ ล ะ คุ ณ ป ระ โย ช น ข อ ง ผั
                                                  ์
                                                                       ้
                                                          ื


 2)  ฤทธิ์ของอินซูลิน (1, 7, 8)    ▪  ไตมีการดูดน้้าตาลกลับเข้ากระแสเลือดมากขึ้น
                      ▪  ร่างกายมีการสร้างน้้าตาลมากขึ้น ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายกลไก เช่น
 ผลต่อเซลล์ตับ           (1)  เซลล์ตับมีการสร้างน้้าตาลมากขึ้น (gluconeogenesis)
 ▪ กระตุ้นให้เซลล์ตับเก็บกลูโคส โดยเปลี่ยนกลูโคสเป็นไกลโคเจน   (2)  เซลล์ไขมันมีการสลายไขมันเปลี่ยนเป็นน้้าตาลมากขึ้น (lipolysis)
 ▪ ลดการสร้างกลูโคสที่ตับ โดยลด gluconeogenesis และ glycogenolysis   (3)  ภาวะแอลฟาเซลลของตับออนมีการสร้างกลูคากอนมากขึ้น เกิดภาวะที่มีกลู
                                                   ่
                                            ์
                                       ่
 ิ่
 ▪ เพิ่มการขนส่งกลูโคสเข้าสู่เซลล์ตับ (hepatic glucose uptake) และเพมการ  คากอนเกนในเลอด (hyperglucagonemia) เกดจากความเสยสมดุลระหว่างการทางาน
                                ื
                          ิ
                                                          ิ
                                                                     ี
                                                                                       ้
 สังเคราะห์ไตรกลีเซอไรด์
                                                  ิ
                      ิ
                  ของอนซูลินและกลูคากอน กล่าวคือ อนซูลินช่วยในการใช้กลูโคสและก้าจัดออกจากเลือด
                                            ิ่
 ผลต่อกล้ามเนื้อ   ในทางตรงกันข้ามกลูคากอนเพมระดับน้้าตาลในเลือด (gluconeogenesis) ช่วยเพ่มการ
                                                                                       ิ
 ▪  กระตุ้นการขนส่งกลูโคสเข้าเซลล์กล้ามเนื้อ   สลายของโปรตีนและไขมัน (lipolysis) ท้าให้น้้าหนักตัวของผู้ป่วยโรคเบาหวานลดลง
 ▪  กระตุ้นให้เซลล์กล้ามเนื้อสังเคราะห์โปรตีนและไกลโคเจนสะสม   (4) มีความเสื่อมของเบต้าเซลลของตับออน ส่วนใหญ่ภาวะดื้ออนซูลินมักเริ่มเกิด
                                                   ์
                                                          ่
                                                                              ิ
 ▪  เพิ่มการขนส่ง K  เข้าสู่เซลล์   ก่อนผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภทที่ 2 จะได้รับการวินิจฉัยเป็นเวลาหลายปี โดยที่ยังมีระดับ
 +
 ผลต่อเซลล์ไขมัน   น้้าตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ ทั้งนี้เพราะตับออนสร้างอนซูลินขึ้นมาเพอปรับสมดุลของ
                                                                              ื่
                                                                  ิ
                                                          ่
 ▪  กระตุ้นการขนส่งกลูโคสเข้าเซลล์ไขมัน   ระดับนาตาลในรางกาย แต่หากผู้ป่วยกลุ่มนี้ยังมีพฤติกรรมทางสขภาพที่ไม่ดี โดยเฉพาะ
                        ้
                        ้
                                ่
                                                                        ุ
 ▪  กระตุ้นการท้างานของเอนไซม์ lipoprotein lipase ในเลือด ท้าให้กรดไขมันใน  การรับประทานอาหารที่มีระดับน้้าตาลหรือไขมันสูงตลอดเวลา ภาวะดื้ออนซูลินนี้จะ
                                                                                  ิ
 เลือดลดลง
                                                                                ่
                                             ่
                                                                                         ี
                  น้าไปสู่ความเสื่อมของเซลล์ตับออน ท้าให้การท้างานของเบต้าเซลล์ที่ตับออนเหลือเพยง
 (9)
 1.1.3  กลไกการเกิดโรคเบาหวาน    ร้อยละ 50 ในขณะที่เริ่มวินิจฉัยโรคเบาหวานประเภทที่ 2 และจะมีการท้างานลดลงเรื่อย
                                                       ึ
                                                       ้
                                     ็
                                                                                  ์
                      ่
                                                                        ิ
                  ๆ เมอระยะเวลาการเปนโรคเบาหวานนานขน สาเหตุของการเกดเบต้าเซลลที่เสื่อมการ
                      ื
 โรคเบาหวาน  เกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมนอินซูลิน  โดยอาจเกิดจากมีความ  ทางาน ได้แก่ ภาวะระดับนาตาลเปนพษ (glucotoxicity) ภาวะเป็นพษจากโมเลกุลไขมัน
                                                                            ิ
                   ้
                                        ้
                                        ้
                                                  ิ
                                               ็
 บกพร่องในการหลั่งหรือ ร่างกายเกิดการดื้อต่ออินซูลิน (insulin resistance)  ท้าให้เสีย  (lipotoxicity) เกิดการอักเสบ (inflammation) และความผิดปกติทางพันธุกรรม ซึ่งส่งผล
 สมดุลในการควบคุมระดับน้้าตาลในเลือด  จึงท้าให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีระดับน้้าตาลใน  ต่อการลดลงของ -cells mass ท้าให้ตับอ่อนไม่สามารถหลั่งอินซูลินได้ตามปกติ
 เลือดสูงขึ้นกว่าระดับปกติ โดยมีกลไกการเกิดโรค (รูปที่ 1-4) ดังนี้
                  (impaired insulin secretion) และมีความผดปกตในกระบวนของ proinsulin
                                                                 ิ
                                                          ิ
 1)  มีระดับกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือดมากเกินไป   (impaired proinsulin processing) ร่างกายจึงไม่สามารถควบคุมระดับน้้าตาลในเลือด
 ▪  มีความอยากอาหารมากขึ้น อาจเกิดจากความผิดปกติของสารสื่อประสาทใน  ได้อกต่อไป
                     ี
 สมองหรือศูนย์ควบคุมความอยากอาหารท้าให้น้้าหนักตัวเพิ่ม โดยเฉพาะรับประทาน   (5) ร่างกายมีการสลายโปรตีน/ไขมันมากขน เช่น พบได้ในผู้ที่ได้รับยาสเตียรอยด์
                                                            ึ้
 อาหารประเภทที่มีน้้าตาลและไขมันสูง   เป็นต้น
 ▪  ล้าไส้เล็กมีการดูดซึมน้้าตาลได้มากขึ้น ร่วมกับการท้างานของเอนไซม์แอล
 ฟ่ากลโคซิเดส (-glucosidase) ที่ brush border ของล้าไส้เล็ก ซึ่งเอนไซม์นี้มีหน้าที่
 ู
 ย่อยคาร์โบไฮเดรตในรูป oligosaccharides และ disaccharides ให้เป็น monosac-
 charides (เช่น กลูโคส) หรือเอนไซมแอลฟ่าอะไมเลส (-amylase) ที่ถูกหลั่งจากน้้าลาย
 ์
 และตับอ่อน ซึ่งมีหน้าที่ย่อยคาร์โบไฮเดรตเช่นกัน
   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28