Page 24 - เบญจมาศ คุชนี โรคเบาหวานและคุณประโยชน์ของผักพื้นบ้านไทย 2565
P. 24

12 | เบญจมาศ คุชน นี                                                                                           โรค เ บ า ห ว า น แ ล ะ คุ ณ ป ระ โย ช น ข อ ง ผั ก พ น บ้ าน ไท ย ใ น ผู ป่ ว ย โ ร ค เ บ าห ว าน | 13
                             ี
           12 | เ บ ญ จ ม า ศ  คุช
                                                                                                                                                                            ้
                                                                                                                                                              ้
                                                                                                                                                      ์
                                                                                                                                                              ื


                      2)  สามารถน าส่งกลูโคสเข้าเซลล์ได้ลดลง                                                                1.1.4  ผลกระทบต่อร่างกายจากระดับน้ าตาลในเลือดสูง

               ▪  ขาดฮอร์โมนอินซูลิน    ซึ่งอาจเกิดจากความผิดปกติของตับอ่อนที่สามารถสร้าง                                     หากปล่อยให้รางกายเกดระดับนาตาลในเลือดสงเป็นระยะเวลานาน จะสงผล
                                                                                                                                                          ้
                                                                                                                                                                       ู
                                                                                                                                          ่
                                                                                                                                                  ิ
                                                                                                                                                          ้
                                                                                                                                                                                             ่
           อินซูลินได้น้อยลง  เช่น  โรคตับอ่อนอักเสบ  ในกรณีของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่  1  เกิด                       กระทบต่อผนังหลอดเลือด (vascular endothelial cell) ที่ไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ของ
           เนื่องจากร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาเองแล้วท้าลายเซลล์ตับอ่อนท้าให้ผลิตอินซูลินไม่ได้                     ร่างกาย ทั้งในด้านการรับสารอาหาร ออกซิเจน และขับของเสีย ท้าให้เกิดความผิดปกติต่อ
               ▪  ภาวะดื้อต่ออินซูลิน (insulin resistance) มักพบในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2                           เซลลบผนงหลอดเลอดผานหลายกลไก โดยสารสื่อต่าง ๆ ที่หลั่งออกมาในช่วงที่เกิด
                                                                                                                                            ่
                                                                                                                                        ื
                                                                                                                               ั
                                                                                                                           ์
                                                                                                                             ุ
           กล่าวคือ  เซลล์ของร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลิน  ท้าให้ไม่สามารถน้ากลูโคสจากกระแส                            ความเครยดระดับเซลล (oxidative stress) เช่น สารสออักเสบ กรดไขมนอิสระ  อนุมูล
                                                                                                                                          ์
                                                                                                                              ี
                                                                                                                                                                     ่
                                                                                                                                                                     ื
                                                                                                                                                                                    ั
           เลือดน้าเข้าสู่เซลล์ได้  มักพบในผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่  30  ปีขึ้นไป  ภาวะอ้วน  ขาดการออก                  อิสระ (free radical oxygen species) เพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถกระตุ้นการท้างานของเอนไซม ์
           ก้าลังกาย หรือหญิงตั้งครรภ์                                                                                 ในกลุ่ม kinases ได้หลายชนด เช่น protein kinase C (PKC), MAPK ซึ่งส่งผลกระทบต่อ
                                                                                                                                              ิ
                                                                                                                       การส่งสัญญาณของตัวรับอินซูลิน
                                                                                                                              โดยโมเลกลของน้้าตาลที่สูงในเลือดเหล่านั้นในรูปรีดิวซ์ (reducing sugar) เช่น
                                                                                                                                       ุ
                                                                                                                       กลูโคส ฟรุกโตส ที่ปราศจากการควบคุมด้วยเอนไซม์จะเข้าจับกับหมู่อะมิโนของ (R-NH2)
                                                                                                                                                                                       ์
                                                                                                                       กรดอะมโนโมเลกลของโปรตีนด้วยพันธะโควาเลนต์ เรยกว่าปฏิกรยาเมลลารด (Millard
                                                                                                                                                                    ี
                                                                                                                                                                             ิ
                                                                                                                                      ุ
                                                                                                                              ิ
                                                                                                                                                                              ิ
                                                                                                                                                                                  ิ
                                                                                                                                                                                 ิ
                                                                                                                       reaction) ได้เป็นไกลโคซิลเอมีน (glycosylamine) จากนั้นเกิดปฏิกรยาดีไฮเดรชันได้
                                                                                                                             ิ
                                                                                                                       เป็นอิมน (imines หรือ Schiff’s base) และมีการจัดเรียงตัวใหม่ ซึ่งเรียกว่า Amadori
                                                                                                                                                 ี
                                                                                                                       product ได้เป็นแอลโดสเอมน (aldoseamine) หรือ คีโทสเอมีน (ketoseamine)
                                                                                                                       จากนั้นเกดเปนผลผลิตสุดท้ายของปฏิกิริยาที่ไม่ใช้เอนไซม์ (non-enzymatic glycation
                                                                                                                               ิ
                                                                                                                                  ็
                                                                                                                                                                          ั
                                                                                                                                              ุ
                                                                                                                                                                                   ื
                                                                                                                       of proteins) ได้สารโมเลกลที่มีขนาดใหญ่ขึ้นสะสมบนผนงหลอดเลอด ซึ่งเรียกว่า
                                                                                                                       advanced glycation end products (AGEs) ซึ่งถือว่าเป็นสารพิษที่เรียกว่า glycotoxins
                                                                                                                       กระบวนการไกลเคชัน มีความสัมพนธ์กับความเสื่อมของเซลล์ รวมไปถึงภาวะแทรกซ้อน
                                                                                                                                                    ั
                                                                                                                       ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน เน่องจากสารดังกล่าวจะเข้าไปจับกับตัวรับของ AGEs (receptors
                                                                                                                                            ื
                                                                                                                       for advanced glycation end products; RAGEs) บริเวณเซลล์ หรือ เนื้อเยื่อโปรตีนใน
                                                                                                                                                                                   ิ
                                                                                                                        ่
                                                                                                                               ้
                                                                                                                                  ้
                                                                                                                                             ี
                                                                                                                       รางกายทาใหเกิดภาวะเครยดออกซิเดชัน และกระบวนการการอักเสบเกดขน โดยจบกบ
                                                                                                                                                                                      ้
                                                                                                                                                                                            ั
                                                                                                                                                                                               ั
                                                                                                                                                                                      ึ
                                                                                                                       ตัวรับบริเวณเซลล์หรือเชื่อมข้ามสายโมเลกุลกับโปรตีนในร่างกาย (cross linked protein)
                                                                                                                                                                  (10)
            รูปที่ 1-4: กลไกการเกิดโรคเบาหวาน (ดัดแปลงมาจากเอกสารอ้างองหมายเลข 9)                                      ท้าให้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะนั้น  (รูปที่ 1-5)
                                                                    ิ
                                                                                                                                                      ึ้
                                                                                                                              โดยปกติ AGEs สามารถเกิดขนได้ในภาวะปกติและเกิดได้มากขึ้นเมื่อมีภาวะระดับ
                                                                                                                                                                                               ิ่
                                                                                                                       น้้าตาลในเลือดสูง การสะสมของ AGEs ในเซลล์ต่าง ๆ ท้าให้หลอดเลือดผิดปกติ ท้าให้เพม
                                                                                                                       การอกเสบของผนังหลอดเลือด หลอดเลือดเกิดการตีบแคบมากขึ้น มีเกล็ดเลือดมาจับกลุ่ม
                                                                                                                           ั
                                                                                                                        ั
                                                                                                                       กน (platelet aggregation) เกิดการสร้างพังผืด (fibrosis) เพิ่มขึ้นที่ผนังหลอดเลือดทั่ว
                                                                                                                       ร่างกาย  ท้าให้ผนังหลอดเลือดเกิดการอุดตันหรือตีบตันมากขึ้น  โดยร่างกายพยายามสร้าง
   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29