Page 96 - เบญจมาศ คุชนี โรคเบาหวานและคุณประโยชน์ของผักพื้นบ้านไทย 2565
P. 96
84 | เบญจมาศ คุชน ช นี โ ร ค เ บ าห ว าน แล ะ คุ ณ ป ร ะ โ ย ช น ข อ ง ผั ก พ น บ้ าน ไท ย ใ น ผู ป่ ว ย โ ร ค เ บ าห ว าน | 85
ุ
ี
84 | เ บ ญจมา ศ ค
์
้
้
ื
ตารางที่ 3-5: การใช้ยากลุ่ม statins เพื่อควบคุมระดับไขมันในเลือดของผู้ป่วย
โรคเบาหวาน (ดัดแปลงมาจากเอกสารอ้างอิงหมายเลข 3)
สรุปเนื้อหาและทิศทางในอนาคต
อายุ (ปี) ปัจจัยเสี่ยง ความแรงของยากลุ่ม
ู
้
ั
ื
้
ั
ุ
้
ิ
ั
statins ที่แนะน าให้ หลงผป่วยไดรับการวินจฉยโรคเบาหวาน การควบคมระดบน้าตาลในเลอดของ
ผู้ป่วยใช้* ผู้ป่วยให้ได้ตามเป้าหมายการรักษา ด้วยการตรวจดัชนีชี้วัด เช่น HbA1C, fasting plasma
้
ั
็
ั
glucose, postprandial plasma glucose เปนต้น แลวปฏิบติตามแนวทางการรกษาจะ
่
่
< 40 ไมมี ไมมี
ASCVD risk factors** ปานกลาง หรือ สูง ช่วยให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่อหลอดเลือดแดงที่ไป
ASCVD สูง เลี้ยงอวัยวะส้าคัญของร่างกาย เนื่องจากภาวะน้้าตาลในเลือดที่สูงนาน ๆ ท้าให้ผนังหลอด
่
่
ิ
ิ
ี
้
ิ
ื
ื
ื
เลอดเกดความเสอมในหนาท เกดหลอดเลอดตีบแคบหรออุดตันได้งาย และเกดความ
่
ื
40-75 ไมมี ปานกลาง บกพรองในการไหลเวียนของเลอดในรางกาย จนเป็นเหตุใหเกดโรคหลอดเลอดสมอง
่
ื
ิ
่
ื
่
้
ASCVD risk factors** สูง (stroke) โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลอด (myocardial infarction) และโรคไตวาย (renal
ื
ASCVD สูง
failure) เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่ก่อให้เกิดโรคเรื้อรัง และอาจท้าให้พการ หรือถึงแก่ชีวิตได้
ิ
ั
ั
้
้
ี
้
ื
ื
>75 ไมมี ปานกลาง นอกจากการเฝาระวังและติดตามระดับนาตาลในเลอดแลว ยงมปจจยอ่นทสามารถเพม
ั
้
่
่
ิ
่
ี
ASCVD risk factors** ปานกลาง หรือ สูง ความเสี่ยงได้อก เช่น ความดันโลหิตสูง ระดับไขมนในเลอดผดปกติ ภาวะอวนลงพง การ
ั
ื
ุ
ิ
้
ี
ASCVD สูง ดื่มสุรา การสูบบุหรี่ เป็นต้น ดังนั้นต้องมีการประเมินและติดตามปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ร่วม
* ให้ยาร่วมกับการปรับพฤติกรรมทางสุขภาพ ด้วยเสมอ เพื่อชะลอการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจตามมา โรคเบาหวานเป็นโรคที่รักษาไม่
ื่
** ASCVD (atherosclerotic cardiovascular disease) risk factors (ความเสี่ยง หายขาด ผู้ป่วยต้องรับประทานยาตลอดชีวิตเพอควบคุมระดับน้้าตาล ดังนั้นการตระหนัก
โรคหัวใจและหลอดเลือด) ได้แก่ มีค่า LDCL-C ตั้งแต่ 100 มก./ดล. ความดันโลหิตสูง สูบ รู้ถึงการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยและผู้ดูแลผู้ป่วยให้มีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี ถือว่าส้าคัญมากกว่า
บุหรี่ โรคไตเรื้อรัง อัลบูมินรั่วออกกับปัสสาวะ (albuminuria) และมีประวัติสมาชิกใน การรักษาด้วยยา
ครอบครัวเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด ในอนาคตนโยบายการลดจานวนผป่วยโรคเบาหวานเป็นสงทควรเรงปฏิรปให ้
ี
่
ิ
่
้
่
้
ู
ู
มากกว่านี้ โดยการส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะเด็ก หรือ วัยรุ่น มีความตระหนัก
รและเข้าใจการเกดโรคเบาหวาน เพอปองกนและลดอบติการณการเกดโรคเบาหวานราย
ิ
์
่
ื
ิ
้
ู
ั
ุ
้
ั
ื่
ใหม่ ปลูกฝังให้มีพฤติกรรทางสุขภาพที่ดี เพอป้องกันและหลีกเลี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
(non-communicable disease; NCDs) ซึ่งมักเกิดโรคร่วมกัน ได้แก่ โรคเบาหวาน โรค
ื
ั
ื
ิ
ู
ั
ความดันโลหตสง โรคไขมนในเลอดผดปกติ โรคไตวาย โรคหวใจและหลอดเลอด โรค
ิ
หลอดเลอดสมอง เปนต้น เพ่อลดปญหาทางสาธารณสข และประหยดคาใช้จายของ
่
ื
ั
ุ
ั
็
่
ื
ประเทศชาติต่อไป