Page 94 - เบญจมาศ คุชนี โรคเบาหวานและคุณประโยชน์ของผักพื้นบ้านไทย 2565
P. 94
82 | เบญจมาศ คุชน ช นี โ ร ค เ บ าห ว าน แล ะ คุ ณ ป ร ะ โ ย ช น ข อ ง ผั ก พ น บ้ าน ไท ย ใ น ผู ป่ ว ย โ ร ค เ บ าห ว าน | 83
ี
ุ
82 | เ บ ญจมา ศ ค
้
ื
์
้
ในกรณีหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคเบาหวาน ควรตั้งเป้าหมายความดันโลหิต systolic aspirin ขนาด 75-162 มก. ต่อวัน โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ทั้ง
ในช่วง 110-129 มม.ปรอท และความดันโลหิต diastolic ในช่วง 65-79 มม.ปรอท หาก เพศหญิงและเพศชาย ที่มีปัจจัยเสี่ยงอื่นร่วมด้วย ได้แก่
1) มีประวัติของครอบครัวมีโรค ASCVD ก่อนวัยอันควร
ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีความดันโลหิตสูงสามารถใช้ยา methyldopa, labetalol และ nifedipine 2) มีความดันโลหิตสูง
แต่ไม่แนะน้าให้ใช้ยาขับปัสสาวะ เนื่องจากมีผลลดการไหลเวียนเลือดไปที่รก และห้ามใช้ 3) มีระดับไขมันในเลือดผิดปกติ
ิ
้
ั
้
ยากลุ่ม ACEIs และ ARBs ในหญงตงครรภ์เพราะอาจทาให้ทารกวิกลรูป (teratogenic 4) มีโปรตีนอัลบูมินปนในปัสสาวะ
(5)
effects) ตามแนวทางการรักษาโรคความดันโลหิตสูง ในเวชปฏิบัติทั่วไป พ.ศ. 2562 5) ไม่มความเสี่ยงของภาวะเลือดออกง่าย
ี
6) สูบบหรี่
3.3 การควบคุมระดับไขมันในเลือด
ส่วนกรณีผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีประวัติการเกิด ASCVD ร่วมด้วย ให้ aspirin
ู
้
ระดับไขมันในเลือดสูง ถือเป็นปัญหาส้าคัญที่พบบ่อยในผป่วยโรคเบาหวาน ส่วน ขนาด 75-162 มก.ต่อวัน เป็นการป้องกนแบบทติยภูม (secondary prevention) แต่
ิ
ุ
ั
่
ิ
ี
่
ั
ใหญ่มสาเหตุสาคญมาจากพฤตกรรมการใช้ชีวิตทสงผลเสยตอสขภาพ เช่น รบประทาน หากผู้ป่วยไม่สามารถใช้ aspirin ได้ เนองจากแพ้ยา aspirin สามารถพิจารณาใหยา
ุ
ี
่
ั
้
ี
้
ื
่
ิ
อาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง (จากวิธีการปรุงอาหารแบบทอด ชนดอาหาร ปรมาณอาหาร clopidogrel ขนาด 75 มก.ต่อวัน แทนยา aspirin ได ้
ิ
ทรับประทาน) มีกจกรรมทางกายนอย อาจเนื่องมาจากภาวะอวนหรือเคลื่อนไหวไม่
ี
้
่
ิ
้
สะดวก การออกก้าลังกายน้อยและไม่สม่้าเสมอ ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจ้า สูบบุหรี่ ม ี ตารางที่ 3-4: ชนิดของยากลุ่ม statins ตามประสิทธิภาพในการลดระดับ LDL-C
ความเครียดสะสมสูง เป็นต้น ระดับไขมันในเลือดสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงส้าคัญท้าให้เกิดความ (ดัดแปลงมาจากเอกสารอ้างองหมายเลข 1)
ิ
เสื่อมของผนังด้านในของหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงอวัยวะส้าคัญ ได้แก่ สมอง หัวใจ และไต
ี
ี
ท้าให้เกิดโรคเรื้อรังตามมา รวมถึงความพการในอวัยวะเหลาน้น หรืออาจรุนแรงทาใหถง การใช้ยากลุ่ม statins ที่ม การใช้ยากลุ่ม statins ที่ม การใช้ยากลุ่ม statins ที่
ั
้
ิ
ึ
่
้
แก่ชีวิตได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ภาวะระดับไขมันในเลือดผิดปกติ ความแรงสูง ความแรงปานกลาง มีความแรงต่ า
้
ที่ส้าคัญ ได้แก่ ค่าไตรกลีเซอไรด์ ตงแต 150 มก./ดล. ขึ้นไป และค่า LDL-C ตั้งแต่ 100 (High intensity statin) (Moderate intensity (Low intensity statin)
่
ั
มก./ดล. ขึ้นไป ส่วนค่า HDL-C ถ้าในเพศชาย น้อยกว่า 40 มก./ดล. ส่วนในเพศหญิง น้อย statin)
กว่า 50 มก./ดล. การให้ยาลดระดับไขมันในเลือดกลุ่ม statins มักให้ตามความแรงของยา ลดระดับ LDL-C จากระดับ ลดระดับ LDL-C จากระดับ ลดระดับ LDL-C จาก
(statin intensity) (ตารางท 3-4) โดยพิจารณาตามอายและปจจัยเสยงของการเกด ก่อนเริ่มรักษาลงได้มากกว่า ก่อนเริ่มรักษาลงประมาณ ระดับกอนเริ่มรักษาลง
ี
ี
ั
่
ุ
่
ิ
่
โรคหัวใจและหลอดเลือด (ตารางที่ 3-5) ร้อยละ 50 ร้อยละ 30-50 ประมาณร้อยละ 30
3.4 การป้องกันการเกิดเกล็ดเลือดเกาะกลุ่มกัน Atorvastatin 40-80 มก. Atorvastatin 10-20 มก. Simvastatin 10 มก.
ส้าหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความส้าคัญไม่น้อยกว่าการควบคุม Rosuvastatin 20 มก. Rosuvastatin 5-10 มก. Pravastatin 10-20 มก.
ความดันโลหิตสูงและระดับไขมันในเลือดสูง คือ การใส่ใจป้องกันการเกิดโรคหัวใจและ Simvastatin 20-40 มก. Fluvastatin 20-40 มก.
ี
หลอดเลือดแข็ง (atherosclerotic cardiovascular disease; ASCVD) ซึ่งเป็นอก Pravastatin 40 มก. Pitavastatin 1 มก.
เป้าหมายหนึ่งในการรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือ เรียกว่าการป้องกันปฐมภูมิ (primary Fluvastatin 40 มก.
prevention) ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดใน 10 ปี มากกว่า
ร้อยละ 10 ควรพิจารณาให้ยาต้านการเกาะกลุ่มกันของเกล็ดเลือด (antiplatelet drugs)