Page 89 - เบญจมาศ คุชนี โรคเบาหวานและคุณประโยชน์ของผักพื้นบ้านไทย 2565
P. 89

76 | เ บ ญจมา ศ   ค ช นี    โ รคเบาหวานและคุณประโยชน์ของผักพ้นบ้านไทยในผ้ป่วยโ รคเบาหวาน | 77 | 77
                                                                       ู
 ุ
                     โ ร ค เ บ าห ว าน แล ะ คุ ณ ป ร ะ โ ย ช น ข อ ง ผั
                                                  ์
                                                                       ้
                                                          ้
                                                        ื ก พื น บ้ าน ไท ย ใ น ผู ป่ ว ย โ ร ค เ บ าห ว าน


                                                    ่
                                                   ้
                                                   ู
                                               ู
                                  ี
                                                                               ี
 ั
 ิ
 ่
 ภาวะแทรกซ้อนที่มีต่อหลอดเลือดเล็กและหลอดเลือดใหญ ประวัตโรคหวใจและหลอด  นอกจากน้ แนวทางการดแลผปวยโรคเบาหวานของ ADA ในป ค.ศ. 2021 ได ้
 เลือด หรือมีภาวะโรคอื่น ๆ ร่วมด้วย     แนะน้าการประมาณค่าเฉลี่ยระดับน้้าตาลในเลือด ในหน่วย มก./ดล.  หรือ มิลลิโมล/ลิตร
 (2)
                                            (1)
                                                                                       ่
                       ่
                                                                     ิ
                                                    ้
 ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยที่เพงได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคเบาหวานได้ไม่นาน ไม่มี  จากคา HbA1C (ตารางที่ 3-2)  เพื่อใหสะดวกในการประเมนและประหยัดค่าใช้จายใน
 ิ่
 ี
 ่
 ้
 ุ
 ภาวะแทรกซอน หรือ ไมมโรคร่วมอน ควรควบคมระดับน้าตาลในเลอดใหเป็นปกตหรือ  การตรวจ
 ิ
 ื
 ่
 ้
 ื
 ้

 ุ
 ื
 ้
 ี
 ้
 ้
 ใกลเคยงปกติตลอดเวลา หรอ ต้องควบคมเขมงวดมาก เปาหมาย HbA1C ควรน้อยกว่า   ตารางที่ 3-1: เป้าหมายการควบคุมโรคเบาหวานส้าหรับผู้ใหญ่ (ดัดแปลงมาจาก
 ั
 6.5% แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มปญหาการควบคมระดับนาตาลในเลอดเขมงวดระดับมาก คือ   เอกสารอ้างอิงหมายเลข 2)
 ้
 ุ
 ้
 ้
 ื
 ี
 เกิดภาวะน้้าตาลในเลือดต่้า โดยทั่วไปเป้าหมายการควบคุมสามารถปรับความเข้มงวดมาที่     การควบคุมโรคเบาหวาน   เป้าหมาย
 ั
 ื
 ระดบปานกลางแทน คอ น้อยกว่า 7.0% แต่ส้าหรับผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยเป็น  ควบคุม  ควบคุม  ควบคุม
 ี
 โรคเบาหวานมานานหลายปีแล้ว อกทั้งเคยมีประวัติระดับน้้าตาลในเลือดต่้าบ่อยและ  เข้มงวดมาก  เข้มงวด  ไม่เข้มงวด
 ้
 รุนแรง มอายุคาดเฉลยค่อนขางสน มภาวะแทรกซอนจากโรคเบาหวานหลายโรครนแรง
 ี
 ี
 ่
 ุ
 ้
 ั
 ี
 ้
 (เช่น โรคไต โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองตีบ) หรือมีโรคร่วมหลายโรค อาจต้องพิจารณา  ระดับน้้าตาลในเลือดขณะอดอาหาร (มก./ดล.)   > 70-110    80-130    140-170
 ปรบเป้าหมายระดับ HbA1C ไม่ควรต่้ากว่า 7.0% เพราะถ้าควบคุมเข้มงวดมาก ผู้ป่วย  ระดับน้้าตาลในเลือดหลังอาหาร 2 ชั่วโมง (มก./ดล.)   < 140    -   -
 ั
                                              ี
 อาจเกิดภาวะน้้าตาลในเลือดต่้ารุนแรง และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ส่วนในผู้ป่วย  ระดับน้้าตาลในเลือดหลังอาหารทันท (มก./ดล.)   -   < 180    -
 โรคเบาหวานที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป ที่มีสุขภาพไม่แขงแรง มีความเปราะบาง มีภาวะ  HbA1C (%)   < 6.5    < 7.0    7.0-8.0
 ็

 สมองเสื่อม หรือ มีค่าอายุคาดเฉลี่ยไม่เกิน 1 ปี อาจยอมรับค่า HbA1C สูงได้ถึง 8.5%
 ทั้งนี้ต้องพิจารณาองค์ประกอบและปัจจัยของผู้ป่วยในแต่ละราย    พบความสัมพนธ์ของผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีค่า HbA1C สงกว่า 6.0% มีความ
 (2)
                                                                          ู
                                     ั
 ้
 ้
 นอกจากการต้งเปาหมายการควบคุมดวยค่า HbA1C แล้ว ยังสามารถประเมินได้  เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่มีต่อไต จอตาและระบบประสาทได้มากกว่าผู้ป่วยที่มีค่า
 ั
 จากค่าน้้าตาลในเลือดขณะอดอาหาร ค่าน้้าตาลในเลือดหลังอาหารทันที และค่าน้้าตาลใน  HbA1C ต้ากว่า 6.0%   ดังนั้นเพื่อให้การควบคุมระดับน้้าตาลในเลือดเป็นไปตาม
                                     (4)
                          ่
                               ั
 เลือดหลังอาหาร 2 ชั่วโมง โดยก้าหนดระดับความเข้มงวดในการควบคุมโรคเบาหวานจาก  เปาหมายการรกษา ควรมการตรวจคา HbA1C อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ส่วนผู้ป่วยที่มี
                                                   ่
                                         ี
                    ้
 ้
 ้
 น้อยไปมากให้ชัดเจน (ตารางที่ 3-1)     สวนเป้าหมายในการควบคมระดับนาตาลใน  ประวัติการควบคุมระดับน้้าตาลในเลือดได้ไม่ดี อาจต้องนัดเพอติดตามผลถี่ขึ้นเป็น ทุก 3
 ่
 (2)
 ุ
                                                                     ื่
                          ื่
 เลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ มีความแตกต่างจากผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่   เดือน เพอประเมินความเสี่ยงและป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่อไป นอกจากการ
 1 และชนิดที่ 2 ที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ โดยก้าหนดระดับน้้าตาลในเลือดขณะอดอาหารให้  ตั้งเป้าหมายในการควบคุมระดับน้้าตาลในเลือดแล้ว การควบคุมปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่น้าไปสู่
 ้
 นอยกว่า 95 มก./ดล.  ระดับน้้าตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร 1 ชั่วโมง ให้น้อยกว่า   ภาวะแทรกซ้อนที่หลอดเลือดก็ต้องให้ความส้าคัญเช่นกัน ได้แก่ ความดันโลหิต ระดับ
                                                   ั
                                                           ี
 140 มก./ดล.  และระดับน้้าตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร 2 ชั่วโมง ให้น้อยกว่า 120   ไขมันในเลือด (LDL-C, HDL-C และระดบไตรกลเซอไรด์) น้้าหนักตัว การออกก้าลังกาย
 ื่
 มก./ดล.  ทั้งนี้เพอป้องกันความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ หากหญิง  การดื่มสุราและการสูบบุหรี่ เป็นต้น (รูปที่ 3-1) (ตารางที่ 3-3)

 ั
 ่
 ั
 ต้งครรภ์ไมสามารถควบคมระดับได้ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของการต้งครรภ์ อาจ
 ุ
 ิ
 จ้าเป็นต้องได้รับยาที่ใช้รักษาโรคเบาหวานในหญิงตั้งครรภ์ ได้แก่ อนซูลิน metformin
 (1, 3)
 และยาในกลุ่มที่ยับยั้งเอนไซม์ -glucosidase เป็นต้น
   84   85   86   87   88   89   90   91   92   93   94