Page 88 - เบญจมาศ คุชนี โรคเบาหวานและคุณประโยชน์ของผักพื้นบ้านไทย 2565
P. 88
76 | เบญจมาศ คุชน ช นี โ ร ค เ บ าห ว าน แล ะ คุ ณ ป ร ะ โ ย ช น ข อ ง ผั ก พ น บ้ าน ไท ย ใ น ผู ป่ ว ย โ ร ค เ บ าห ว าน | 77
ุ
ี
76 | เ บ ญจมา ศ ค
ื
์
้
้
่
ู
ี
้
ู
ี
ั
ภาวะแทรกซ้อนที่มีต่อหลอดเลือดเล็กและหลอดเลือดใหญ ประวัตโรคหวใจและหลอด นอกจากน้ แนวทางการดแลผปวยโรคเบาหวานของ ADA ในป ค.ศ. 2021 ได ้
ิ
่
เลือด หรือมีภาวะโรคอื่น ๆ ร่วมด้วย แนะน้าการประมาณค่าเฉลี่ยระดับน้้าตาลในเลือด ในหน่วย มก./ดล. หรือ มิลลิโมล/ลิตร
(2)
(1)
ั
่
ิ
้
่
ื
่
ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยที่เพงได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคเบาหวานได้ไม่นาน ไม่มี จากคา HbA1C (ตารางที่ 3-2) เพ่อใหสะดวกในการประเมนและประหยดคาใช้จายใน
ิ่
ื
่
้
ุ
ิ
้
ภาวะแทรกซอน หรือ ไมมโรคร่วมอน ควรควบคมระดบน้าตาลในเลอดใหเป็นปกตหรือ การตรวจ
่
้
ั
ื
ี
้
ื
ุ
้
ี
้
ใกลเคยงปกติตลอดเวลา หรอ ต้องควบคมเขมงวดมาก เปาหมาย HbA1C ควรน้อยกว่า ตารางที่ 3-1: เป้าหมายการควบคุมโรคเบาหวานส้าหรับผู้ใหญ่ (ดัดแปลงมาจาก
6.5% แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มปญหาการควบคมระดับนาตาลในเลอดเขมงวดระดับมาก คอ เอกสารอ้างอิงหมายเลข 2)
ื
ุ
้
้
ั
ื
ี
้
เกิดภาวะน้้าตาลในเลือดต่้า โดยทั่วไปเป้าหมายการควบคุมสามารถปรับความเข้มงวดมาที่ การควบคุมโรคเบาหวาน เป้าหมาย
ระดบปานกลางแทน คอ น้อยกว่า 7.0% แต่ส้าหรับผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยเป็น ควบคุม ควบคุม ควบคุม
ั
ื
โรคเบาหวานมานานหลายปีแล้ว อกทั้งเคยมีประวัติระดับน้้าตาลในเลือดต่้าบ่อยและ เข้มงวดมาก เข้มงวด ไม่เข้มงวด
ี
ั
้
่
้
รุนแรง มอายุคาดเฉลยค่อนขางสน มภาวะแทรกซอนจากโรคเบาหวานหลายโรครนแรง
ี
ุ
ี
ี
้
(เช่น โรคไต โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองตีบ) หรือมีโรคร่วมหลายโรค อาจต้องพิจารณา ระดับน้้าตาลในเลือดขณะอดอาหาร (มก./ดล.) > 70-110 80-130 140-170
ปรบเป้าหมายระดับ HbA1C ไม่ควรต่้ากว่า 7.0% เพราะถ้าควบคุมเข้มงวดมาก ผู้ป่วย ระดับน้้าตาลในเลือดหลังอาหาร 2 ชั่วโมง (มก./ดล.) < 140 - -
ั
ี
อาจเกิดภาวะน้้าตาลในเลือดต่้ารุนแรง และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ส่วนในผู้ป่วย ระดับน้้าตาลในเลือดหลังอาหารทันท (มก./ดล.) - < 180 -
็
โรคเบาหวานที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป ที่มีสุขภาพไม่แขงแรง มีความเปราะบาง มีภาวะ HbA1C (%) < 6.5 < 7.0 7.0-8.0
สมองเสื่อม หรือ มีค่าอายุคาดเฉลี่ยไม่เกิน 1 ปี อาจยอมรับค่า HbA1C สูงได้ถึง 8.5%
ทั้งนี้ต้องพิจารณาองค์ประกอบและปัจจัยของผู้ป่วยในแต่ละราย พบความสัมพนธ์ของผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีค่า HbA1C สงกว่า 6.0% มีความ
(2)
ั
ู
้
ั
้
นอกจากการต้งเปาหมายการควบคุมดวยค่า HbA1C แล้ว ยังสามารถประเมินได้ เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่มีต่อไต จอตาและระบบประสาทได้มากกว่าผู้ป่วยที่มีค่า
จากค่าน้้าตาลในเลือดขณะอดอาหาร ค่าน้้าตาลในเลือดหลังอาหารทันที และค่าน้้าตาลใน HbA1C ต้ากว่า 6.0% ดังนั้นเพอให้การควบคุมระดับน้้าตาลในเลือดเป็นไปตาม
่
(4)
ื่
ั
่
เลือดหลังอาหาร 2 ชั่วโมง โดยก้าหนดระดับความเข้มงวดในการควบคุมโรคเบาหวานจาก เปาหมายการรกษา ควรมการตรวจคา HbA1C อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ส่วนผู้ป่วยที่มี
ี
้
้
้
่
น้อยไปมากให้ชัดเจน (ตารางที่ 3-1) สวนเป้าหมายในการควบคมระดับนาตาลใน ประวัติการควบคุมระดับน้้าตาลในเลือดได้ไม่ดี อาจต้องนัดเพอติดตามผลถี่ขึ้นเป็น ทุก 3
ุ
ื่
(2)
ื่
เลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ มีความแตกต่างจากผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ เดือน เพอประเมินความเสี่ยงและป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่อไป นอกจากการ
1 และชนิดที่ 2 ที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ โดยก้าหนดระดับน้้าตาลในเลือดขณะอดอาหารให้ ตั้งเป้าหมายในการควบคุมระดับน้้าตาลในเลือดแล้ว การควบคุมปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่น้าไปสู่
นอยกว่า 95 มก./ดล. ระดับน้้าตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร 1 ชั่วโมง ให้น้อยกว่า ภาวะแทรกซ้อนที่หลอดเลือดก็ต้องให้ความส้าคัญเช่นกัน ได้แก่ ความดันโลหิต ระดับ
้
ี
ั
์
140 มก./ดล. และระดับน้้าตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร 2 ชั่วโมง ให้น้อยกว่า 120 ไขมันในเลือด (LDL-C, HDL-C และระดบไตรกลเซอไรด) น้้าหนักตัว การออกก้าลังกาย
ื่
มก./ดล. ทั้งนี้เพอป้องกันความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ หากหญิง การดื่มสุราและการสูบบุหรี่ เป็นต้น (รูปที่ 3-1) (ตารางที่ 3-3)
ั
ุ
่
ต้งครรภ์ไมสามารถควบคมระดับได้ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของการต้งครรภ์ อาจ
ั
จ้าเป็นต้องได้รับยาที่ใช้รักษาโรคเบาหวานในหญิงตั้งครรภ์ ได้แก่ อนซูลิน metformin
ิ
(1, 3)
และยาในกลุ่มที่ยับยั้งเอนไซม์ -glucosidase เป็นต้น