Page 17 - เบญจมาศ คุชนี โรคเบาหวานและคุณประโยชน์ของผักพื้นบ้านไทย 2565
P. 17
4 | เ บ ญ จ ม า ศ คุช นี โ รคเบาหวานและคุณประโยชน์ของผักพ้นบ้านไทยในผ้ป่วยโ รคเบาหวาน | 5 | 5
ู
้
ื ก พ น บ้ าน ไท ย ใ น ผู ป่ ว ย โ ร ค เ บ าห ว าน
โรค เ บ า ห ว า น แ ล ะ คุ ณ ป ระ โย ช น ข อ ง ผั
์
้
ื
็
้
ิ
ึ
้
ี
้
ี
็
ิ
่
ขนไป คดเปนรอยละ 8.9 ในป พ.ศ. 2557 และเพมเปนรอยละ 9.5 ในป พ.ศ. 2563 จะ อาหาร (postprandial state) มีการย่อยแป้งจนได้โมเลกุลที่เล็กที่สุด คือ น้้าตาลกลูโคส
้
เห็นได้ว่าอุบัติการณ์ของโรคเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่อง ก่อนดูดซึมเขากระแสเลือด โดยเฉพาะในช่วง 2 ชั่วโมงแรกจะมีระดับน้้าตาลในเลือดสูงขึ้น
ั
้
อย่างรวดเรว (postprandial hyperglycemia) ซึ่งเป็นปัจจัยสาคญในการกระตนและ
็
้
ุ
ควบคุมการหลั่งอินซูลิน ในการน้าส่งกลูโคสจากพลาสมาเข้าสู่เซลล์หรือเนื้อเยื่อเพ่อใช้เป็น
ื
1.1 พยาธิสรีรวิทยาของโรคเบาหวาน พลงงาน จ้าเป็นต้องอาศัยตัวขนส่งกลูโคส (glucose transporters; GLUTs) ในร่างกายม ี
ั
(5)
GLUTs หลายชนิดและแต่ละชนิดมีความจ้าเพาะต่อเนื้อเยื่อเป้าหมาย (ตารางที่ 1-2)
ิ
้
ื
ั
ึ
โรคเบาหวานเป็นโรคเรอรงทางเมแทบอลซม (chronic metabolic diseases)
อาจมีสาเหตุจากปัจจัยทางพนธุกรรมหรือสิ่งแวดล้อม ที่ท้าให้เกิดความบกพร่องในการ ตารางที่ 1-1: ชนิดของเซลล์ในกลุ่มเซลล์ไอส์เลตออฟแลงเกอร์ฮานส์ และสารที่หลั่ง
ั
ิ
ิ
หลั่งอนซูลิน หรือ มีการตอบสนองของอนซลินลดลง หรือ มีการสร้างกลูโคสมากเกินไป (ดัดแปลงมาจากเอกสารอ้างองหมายเลข 5)
ู
ิ
หรือ เมแทบอลิซึมของเซลล์ไขมันและเซลล์กล้ามเนื้อมีความผิดปกติ ส่งผลให้ระดับน้้าตาล
ในเลือดสูง (hyperglycemia) สาเหตุส้าคัญของการเสียชีวิตในผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ปล่อย ชนิดของเซลล ์ ร้อยละที่พบ สารที่หลั่ง
ื
้
ให้มีระดับน้้าตาลในเลือดสูงเป็นระยะเวลานาน คอ ภาวะแทรกซอนเรื้อรังต่อหลายระบบ Alpha () cell 20 glucagon, proglucagon
ของรางกาย ได้แก ความผดปกติของจอตา (retinopathy) ความผิดปกติของเส้นประสาท Beta () cell 75 insulin, C-peptide, proinsulin,
ิ
่
่
ั
(neuropathy) โรคไตจากโรคเบาหวาน (diabetic nephropathy) โรคหวใจและหลอด amylin
เลือด (cardiovascular disease) ดังนั้นหลักการรักษาที่ใช้ในปัจจุบันจึงพยายามมุ่ง Delta () cell 3-5 somatostatin
(1)
เป้าหมายที่จะควบคุมระดับน้้าตาลในเลือดของผู้ป่วยให้เป็นปกติ Epsilon cell น้อยกว่า 1 ghrelin
1.1.1 การควบคุมสมดุลระดับน้ าตาลในเลือด ส่วนอนซูลินซึ่งสร้างขึ้นมาจากเบต้าเซลล์ (-cells) ของตับอ่อน เป็นฮอรโมน
์
ิ
ส้าคัญที่ช่วยกระตุ้นการน้าส่งกลูโคสเข้าเซลล์ มีกลไกการท้างาน โดยอนซูลินเข้าจับกับ
ิ
ร่างกายมีระบบควบคุมระดับน้้าตาลในเลือด (blood glucose homeostasis)
้
ใหมความสมดุลตลอดเวลา แต่ถารางกายมปัจจัยที่ส่งผลกระทบการท้างานของระบบนี้ ตัวรับ (receptor) ที่จ้าเพาะบริเวณเนื้อเยื่อเป้าหมาย โดยเฉพาะเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อและ
้
่
ี
ี
ิ่
์
้
้
เช่น ระบบเผาผลาญผดปกติ เจ็บป่วยรุนแรง หรือยาบางชนิด อาจทาใหระดับนาตาลใน ไขมัน แล้วส่งสัญญาณไปกระตุ้นให้เพมการเคลื่อนที่ของ GLUT4 จากภายในเซลล มาท ่ ี
ิ
้
้
เลือดสูงหรือต่้ากว่าปกติได้ ในการควบคุมระดับน้้าตาลในเลือดให้สมดุลนั้น ต้องอาศัย บริเวณเซลล์เมมเบรน ส่งผลท้าให้มีการน้าส่งน้้าตาลกลูโคสเข้าสู่เซลล์ (glucose uptake)
่
ฮอรโมนและอวัยวะอนเขามาช่วย ถึงแม้อนซูลินจะเป็นฮอร์โมนหลักก็ตาม โดยกลุ่มเซลล์ เพิ่มมากขึ้น ลดการน้า GLUT4 จากบริเวณเซลล์เมมเบรนกลับเข้าเซลล์ ท้าให้ GLUT4 อยู่
์
ื
ิ
้
ี
้
้
ิ
้
ิ
ิ
์
์
ไอส์เลตออฟแลงเกอร์ฮานส์ (islets of Langerhans) ในตับอ่อนเป็นอวัยวะที่มีความส้าคัญ บรเวณเซลลเมมเบรนไดยาวนานขน จึงเพ่มการทางานของเอนไซมไกลโคเจนซนเทส
ิ่
ิ่
ในการผลิตฮอร์โมนอินซูลิน (insulin) และกลูคากอน (glucagon) (ตารางที่ 1-1) (glycogen synthase) และเพมการสังเคราะห์ไกลโคเจน เพมกระบวนการสร้างไขมัน
(5)
์
ั
ในสภาวะอดอาหารหรือไม่ได้รับประทานอาหาร (fasting state) ร่างกายพยายาม (lipogenesis) และยับย้งกระบวนการสลายไขมัน (lipolysis) ในเซลลไขมัน ดังนั้นใน
ิ
ิ
ปรับสมดุล โดยมีระดับอนซูลินในเลือดต่้า และมีระดับกลูคากอนในเลือดสูง ท้าให้มีการ ภาวะขาดอนซูลินจึงน้ากลูโคสเข้าเซลล์ไม่ได้ ส่วนในเซลล์ตับ อนซูลินจะท้าหน้าที่กระตุ้น
ิ
้
ื่
สลายไกลโคเจน (glycogen) ที่สะสมไว้ในตับกลายเป็นน้้าตาลกลูโคส (hepatic การสรางไกลโคเจน (glycogenesis) เก็บสะสมที่ตับเพอใช้เป็นพลังงานเมื่อจ้าเป็น และ
glycogenolysis) และยังมีการสร้างน้้าตาลกลูโคส (gluconeogenesis) บางส่วนจากการ ยับยั้งการสร้างน้้าตาล (gluconeogenesis) จึงท้าให้ระดับน้้าตาลในเลือดลดลง (รูปที่ 1-
ั
ิ
ี
สลายไขมันชนิดไตรกลีเซอไรด์ (triglyceride) ที่อยู่ในเซลล์ไขมันแล้ว น้าเข้าสู่กระแสเลือด 1) นอกจากน้ยงพบว่าอะดรีนาลน (adrenaline) ท้าหน้าที่นี้เช่นกันโดยเฉพาะในช่วงที่มี
้
่
ั
ื
้
ื
ี
ื
์
้
เพอเป็นการสารองพลงงานใหระบบประสาทสวนกลาง ส่วนในสภาวะหลังรับประทาน การออกกาลงกาย เนองจากเซลลกลามเนอมการยดตัวและหดตัวตลอดเวลา ซึ่งเป็น
ั
้
่
้
ื
่