Page 16 - เบญจมาศ คุชนี โรคเบาหวานและคุณประโยชน์ของผักพื้นบ้านไทย 2565
P. 16

4 | เบญจมาศ คุชน นี                                                                                             โรค เ บ า ห ว า น แ ล ะ คุ ณ ป ระ โย ช น ข อ ง ผั ก พ น บ้ าน ไท ย ใ น ผู ป่ ว ย โ ร ค เ บ าห ว าน | 5
                            ี
           4 | เ บ ญ จ ม า ศ  คุช
                                                                                                                                                               ้
                                                                                                                                                               ื
                                                                                                                                                                             ้
                                                                                                                                                       ์


                                                        ็
                  ิ
                                                           ้
                                                                        ี
            ึ
                     ็
           ขนไป คดเปนรอยละ 8.9 ในป พ.ศ. 2557 และเพมเปนรอยละ 9.5 ในป พ.ศ. 2563 จะ                                       อาหาร (postprandial state) มีการย่อยแป้งจนได้โมเลกุลที่เล็กที่สุด คือ น้้าตาลกลูโคส
                                                     ิ
                                                     ่
                                     ี
                        ้
            ้
                                                                                                                                 ้
           เห็นได้ว่าอุบัติการณ์ของโรคเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่อง                                     ก่อนดูดซึมเขากระแสเลือด โดยเฉพาะในช่วง 2 ชั่วโมงแรกจะมีระดับน้้าตาลในเลือดสูงขึ้น
                                                                                                                       อย่างรวดเรว (postprandial hyperglycemia) ซึ่งเป็นปัจจัยสาคญในการกระตนและ
                                                                                                                                                                               ั
                                                                                                                                                                                           ุ
                                                                                                                                                                                           ้
                                                                                                                                 ็
                                                                                                                                                                            ้

                                                                                                                       ควบคุมการหลั่งอินซูลิน ในการน้าส่งกลูโคสจากพลาสมาเข้าสู่เซลล์หรือเนื้อเยื่อเพ่อใช้เป็น
                                                                                                                                                                                          ื
           1.1  พยาธิสรีรวิทยาของโรคเบาหวาน                                                                            พลงงาน จ้าเป็นต้องอาศัยตัวขนส่งกลูโคส (glucose transporters; GLUTs) ในร่างกายม  ี
                                                                                                                         ั
                                                                                                                                                                               (5)
                                                                                                                       GLUTs หลายชนิดและแต่ละชนิดมีความจ้าเพาะต่อเนื้อเยื่อเป้าหมาย  (ตารางที่ 1-2)
                                                       ึ
                  โรคเบาหวานเป็นโรคเรอรงทางเมแทบอลซม (chronic metabolic diseases)
                                      ้
                                                      ิ
                                         ั
                                      ื
           อาจมีสาเหตุจากปัจจัยทางพนธุกรรมหรือสิ่งแวดล้อม ที่ท้าให้เกิดความบกพร่องในการ                                ตารางที่ 1-1: ชนิดของเซลล์ในกลุ่มเซลล์ไอส์เลตออฟแลงเกอร์ฮานส์ และสารที่หลั่ง
                                   ั
                                             ิ
                                                ู
                ิ
           หลั่งอนซูลิน หรือ มีการตอบสนองของอนซลินลดลง หรือ มีการสร้างกลูโคสมากเกินไป                                  (ดัดแปลงมาจากเอกสารอ้างองหมายเลข 5)
                                                                                                                                               ิ
           หรือ เมแทบอลิซึมของเซลล์ไขมันและเซลล์กล้ามเนื้อมีความผิดปกติ ส่งผลให้ระดับน้้าตาล
           ในเลือดสูง (hyperglycemia) สาเหตุส้าคัญของการเสียชีวิตในผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ปล่อย                              ชนิดของเซลล  ์      ร้อยละที่พบ                 สารที่หลั่ง
                                                    ื
                                                                 ้
           ให้มีระดับน้้าตาลในเลือดสูงเป็นระยะเวลานาน คอ ภาวะแทรกซอนเรื้อรังต่อหลายระบบ                                 Alpha () cell            20          glucagon, proglucagon
                                 ิ
           ของรางกาย ได้แก ความผดปกติของจอตา (retinopathy) ความผิดปกติของเส้นประสาท                                     Beta () cell             75          insulin, C-peptide, proinsulin,
                ่
                          ่
                                                                         ั
           (neuropathy) โรคไตจากโรคเบาหวาน (diabetic nephropathy) โรคหวใจและหลอด                                                                              amylin
           เลือด (cardiovascular disease) ดังนั้นหลักการรักษาที่ใช้ในปัจจุบันจึงพยายามมุ่ง                              Delta () cell            3-5         somatostatin
                                                                (1)
           เป้าหมายที่จะควบคุมระดับน้้าตาลในเลือดของผู้ป่วยให้เป็นปกติ                                                  Epsilon cell           น้อยกว่า 1     ghrelin

                 1.1.1  การควบคุมสมดุลระดับน้ าตาลในเลือด                                                                     ส่วนอนซูลินซึ่งสร้างขึ้นมาจากเบต้าเซลล์ (-cells) ของตับอ่อน เป็นฮอร์โมน
                                                                                                                                   ิ
                                                                                                                                                                                  ิ
                                                                                                                       ส้าคัญที่ช่วยกระตุ้นการน้าส่งกลูโคสเข้าเซลล์ มีกลไกการท้างาน โดยอนซูลินเข้าจับกับ
                  ร่างกายมีระบบควบคุมระดับน้้าตาลในเลือด (blood glucose homeostasis)
                                         ่
           ใหมความสมดุลตลอดเวลา แต่ถารางกายมปัจจัยที่ส่งผลกระทบการท้างานของระบบนี้                                     ตัวรับ (receptor) ที่จ้าเพาะบริเวณเนื้อเยื่อเป้าหมาย โดยเฉพาะเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อและ
                                      ้
             ้
                                                ี
               ี
                                                                                                                                                                                            ์
                                                                                                                                                      ิ่
           เช่น ระบบเผาผลาญผดปกต เจ็บป่วยรุนแรง หรือยาบางชนิด อาจทาใหระดับนาตาลใน                                      ไขมัน แล้วส่งสัญญาณไปกระตุ้นให้เพมการเคลื่อนที่ของ GLUT4 จากภายในเซลล มาท ่ ี
                                                                              ้
                                                                              ้
                                                                        ้
                                                                    ้
                              ิ
                                   ิ
           เลือดสูงหรือต่้ากว่าปกติได้ ในการควบคุมระดับน้้าตาลในเลือดให้สมดุลนั้น ต้องอาศัย                            บริเวณเซลล์เมมเบรน ส่งผลท้าให้มีการน้าส่งน้้าตาลกลูโคสเข้าสู่เซลล์ (glucose uptake)
                                              ิ
                                ้
           ฮอรโมนและอวัยวะอนเขามาช่วย ถึงแม้อนซูลินจะเป็นฮอร์โมนหลักก็ตาม โดยกลุ่มเซลล์                                เพิ่มมากขึ้น ลดการน้า GLUT4 จากบริเวณเซลล์เมมเบรนกลับเข้าเซลล์ ท้าให้ GLUT4 อยู่
               ์
                             ื
                             ่
                                                                                                                                                                  ้
                                                                                                                                                                                           ิ
                                                                                                                                                     ี
                                                                                                                                            ้
                                                                                                                                                           ิ
                                                                                                                                                     ้
                                                                                                                                  ์
                                                                                                                                                                                 ์
                                                                                                                         ิ
           ไอส์เลตออฟแลงเกอร์ฮานส์ (islets of Langerhans) ในตับอ่อนเป็นอวัยวะที่มีความส้าคัญ                           บรเวณเซลลเมมเบรนไดยาวนานขน จึงเพ่มการทางานของเอนไซมไกลโคเจนซนเทส
                                                                                                                                                                          ิ่
                                                                                                                                                ิ่
           ในการผลิตฮอร์โมนอินซูลิน (insulin) และกลูคากอน (glucagon)  (ตารางที่ 1-1)                                   (glycogen synthase) และเพมการสังเคราะห์ไกลโคเจน เพมกระบวนการสร้างไขมัน
                                                                 (5)
                                                                                                                                                                                   ์
                                                                                                                                           ั
                  ในสภาวะอดอาหารหรือไม่ได้รับประทานอาหาร (fasting state) ร่างกายพยายาม                                 (lipogenesis) และยับย้งกระบวนการสลายไขมัน (lipolysis) ในเซลลไขมัน ดังนั้นใน
                                                                                                                                ิ
                                                                                                                                                                           ิ
                                ิ
           ปรับสมดุล โดยมีระดับอนซูลินในเลือดต่้า และมีระดับกลูคากอนในเลือดสูง ท้าให้มีการ                             ภาวะขาดอนซูลินจึงน้ากลูโคสเข้าเซลล์ไม่ได้ ส่วนในเซลล์ตับ อนซูลินจะท้าหน้าที่กระตุ้น
                                                                                                                                                                     ื่
                                                                                                                            ้
           สลายไกลโคเจน (glycogen) ที่สะสมไว้ในตับกลายเป็นน้้าตาลกลูโคส (hepatic                                       การสรางไกลโคเจน (glycogenesis) เก็บสะสมที่ตับเพอใช้เป็นพลังงานเมื่อจ้าเป็น และ
           glycogenolysis)  และยังมีการสร้างน้้าตาลกลูโคส (gluconeogenesis) บางส่วนจากการ                              ยับยั้งการสร้างน้้าตาล (gluconeogenesis)  จึงท้าให้ระดับน้้าตาลในเลือดลดลง (รูปที่ 1-
                                                                                                                                   ี
                                                                                                                                    ั
                                                                                                                                                  ิ
           สลายไขมันชนิดไตรกลีเซอไรด์ (triglyceride) ที่อยู่ในเซลล์ไขมันแล้ว น้าเข้าสู่กระแสเลือด                      1)  นอกจากน้ยงพบว่าอะดรีนาลน (adrenaline) ท้าหน้าที่นี้เช่นกันโดยเฉพาะในช่วงที่มี
                                                                                                                               ้
                                                                                                                                  ั
                                                                                                                                                                   ื
                                                                                                                                                            ื
                                                                                                                                                    ์
                                                                                                                                                       ้
                                                                                                                                                            ้
                                                                                                                                          ื
                                                                                                                                          ่
                                                                                                                                                              ี
                                    ้
                                                  ่
                       ้
                              ั
             ื
           เพอเป็นการสารองพลงงานใหระบบประสาทสวนกลาง  ส่วนในสภาวะหลังรับประทาน                                          การออกกาลงกาย เนองจากเซลลกลามเนอมการยดตัวและหดตัวตลอดเวลา ซึ่งเป็น
             ่
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21