Page 56 - เบญจมาศ คุชนี โรคเบาหวานและคุณประโยชน์ของผักพื้นบ้านไทย 2565
P. 56

44 | เบญจมาศ คุชน นี                                                                                           โรค เ บ า ห ว า น แ ล ะ คุ ณ ป ระ โย ช น ข อ ง ผั ก พ น บ้ าน ไท ย ใ น ผู ป่ ว ย โ ร ค เ บ าห ว าน | 45
                             ี
           44 | เ บ ญ จ ม า ศ  คุช
                                                                                                                                                              ้
                                                                                                                                                      ์
                                                                                                                                                              ื
                                                                                                                                                                            ้


                  เภสัชจลนศาสตร์                                                                                          3)  ผู้ป่วยโรคตับหรือโรคไตเพราะท้าให้ขับยาออกจากร่างกายได้ช้า อาจท้าให้เกิด
                                                                                                                       ระดับน้้าตาลในเลือดต่้าได้ง่าย
                          ้
                           ู
                          ี
                  ยากลมนถกดูดซึมผานเขาทางเดินอาหารได้ดี แต่อาหารมผลลดการดูดซึมของยา                                       4)  ผู้ที่มีประวัติแพ้ยากลุ่ม sulfonamides เนื่องจากยามีโครงสร้างทางเคมีคล้ายกัน
                       ุ
                       ่
                                       ้
                                                                  ี
                                  ่
                                                                   ั
                 ึ
                                                                                   ี
                                                                      ั
                                     ่
                                 ้
                                                            ี
                                                                 ้
                        ิ
               ั
               ้
           ดังนนจงต้องบรหารโดยใหยากอนอาหารประมาณ 30 นาท ยาเขาจบกบพลาสมาโปรตน                                              5)  การเจ็บป่วยที่รุนแรง ได้แก่ การติดเชื้อรุนแรง กล้ามเนื้อหัวใจตาย (myocardial
           สูงถึง 90% ผ่านเมแทบอลิซึมที่ตับ และถูกขับออกทางปัสสาวะในรูปเมแทบอไลท์ ดังนั้น                              infarction) การผ่าตัด ควรหยุดยารับประทานแล้วใช้การฉีดอินซูลินแทน
           ควรระวังการใช้ยาในผู้ที่มีการท้างานของตับและไตบกพร่อง ยาในรุ่นที่ 1 ออกฤทธิ์สั้น
           ประมาณ 6-12 ชั่วโมง แต่ยาในรุ่นที่ 2 ออกฤทธิ์ได้นานถึง 24 ชั่วโมง                                                  อันตรกิริยาระหว่างยา

                                                                                                                          1)  ยากลุ่ม salicylates ยากลุ่ม sulfonamides และ clofibrate เนื่องจากยา
                  ข้อบ่งใช้ทางคลินิก
                                                                                                                       เหล่านี้แย่งกับ sulfonylureas ในการเข้าจับกับพลาสมาโปรตีนท้าให้เกิดรูปอิสระของ
                  ยากลุ่มนี้ใช้ในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยอาจใช้เป็นยาเดี่ยว หรือใช้ร่วมกับ                       sulfonylurea ในกระแสเลือดมากกว่าปกติ จึงท้าให้ระดับน้้าตาลในเลือดต่้าได้ง่าย
           ยากลุ่มอ่น เช่น biguanides, thiazolidinediones, DPP-4 inhibitors เป็นต้น ส่วนใหญ่                              2)  ยากลุ่ม salicylates ยากลุ่ม sulfonamides, allopurinol และ probenecid
                  ื
           ผู้ป่วยตอบสนองต่อยาได้ดีในช่วงแรก แต่เมื่อใช้ยาเป็นระยะเวลานานผู้ป่วยมักเกิดปัญหา                           ยับยั้งการขับยาในกลุ่ม sulfonylureas ออกทางไต ท้าให้มีระดับ sulfonylureas  ใน
                                   ั
                                   ้
                                                                     ิ
           การตอบสนองต่อยาลดลง ทงนอาจเกดจากเบต้าเซลลไมสามารถผลตอินซลนได้อีกแลว                                         กระแสเลือดสูง
                                                         ์
                                                           ่
                                           ิ
                                      ้
                                      ี
                                                                                    ้
                                                                           ิ
                                                                          ู
           ยานี้ใช้ไม่ได้ผลกับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1  เพราะเบต้าเซลล์ถูกท้าลายไปแล้ว                                  3)  ยาที่มีฤทธิ์ยับยั้งการท้าลายของ sulfonylureas เช่น ยากลุ่ม monoamine
                                                                                                                       oxidase inhibitors (MAOIs) ยากลุ่ม H2-receptor antagonists
                  อาการไม่พึงประสงค์
                                                                                                                                                (3-5)
                                                                                                                               2.1.3 Glitinides
               1)  ภาวะน้้าตาลในเลือดต่้า โดยฉพาะผู้สูงอายุ พบว่า chlorpropamide ท้าให้เกิด
           ความเสี่ยงต่อภาวะน้้าตาลในเลือดต่้ามากกว่า tolazamide และ tolbutamide                                              ตัวอย่างยาในกลุ่มนี้ ได้แก่ repaglinide, nateglinide เป็นต้น

                                                               ิ
                                                          ์
                                          ่
                                              ั
               2)  หากให้ chlorpropamide รวมกบแอลกอฮอลอาจเกดอาการ disulfiram-like                                             กลไกการออกฤทธิ์
                                ้
           reactions หรืออาการแพเหล้า เช่น หน้าแดง ปวดศีรษะ ใจสั่น มึนงง เป็นต้น อันเนื่องมา
                       ั
           จากยาไปยับย้งการเปลี่ยนแปลงของแอลกอฮอล์ในร่างกาย ท้าให้เกิดการคั่งของสารที่                                        ยาออกฤทธิ์กระตุ้นการหลั่งอินซูลินด้วยกลไกเดียวกันกับยากลุ่ม  sulfonylureas
                                                                                                                                                           ี
           เรียกว่า อะเซตัลดีไฮล์ (acetaldehyde) จึงท้าให้เกิดอาการดังกล่าว                                            แต่สูตรโครงสร้างทางเคมีของยากลุ่มนี้  ไม่ม  sulfur  เป็นส่วนประกอบ  (รูปที่  2-4)  จึง
               3)  เพิ่มความอยากอาหารมากขึ้น ท้าให้น้้าหนักตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในช่วงระยะแรก                           สามารถใช้ได้ในผู้ที่แพ้ยากลุ่ม sulfonylureas

           ที่ได้รับยา                                                                                                        เภสัชจลนศาสตร์
               4)  ภาวะดีซ่านที่เกดจากการอุดกั้นการไหลของน้้าดี (cholestatic jaundice)
                               ิ
                                                                                                                              ยาถูกดูดซึมผ่านทางเดินอาหารได้ดี ยาเมแทบอลิซึมโดยอาศัยเอนไซม์ CYP3A4 ที่
                  ข้อห้ามใช้                                                                                           ตับและขับออกทางน้้าดี repaglinide ออกฤทธิ์ได้เร็วภายใน 1 ชั่วโมง ใช้ส้าหรับควบคุม

               1)  ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1                                                                          ระดับน้้าตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร และออกฤทธิ์นาน 4-7 ชั่วโมง ยามีค่าครึ่งชีวิต
               2)  หญิงตั้งครรภ์ (ยาจัดอยู่ใน pregnancy category C) และหญิงให้นมบุตร เพราะ                             ประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วน nateglinide เป็นอนุพันธ์ของ D-phenylalanine ถูกดูดซึมผ่าน
           ยาสามารถผ่านรกและน้้านมได้                                                                                  เข้าทางเดินอาหารได้อย่างรวดเร็วภายใน  20  นาที  ออกฤทธิ์ได้สูงสุดใช้เวลาน้อยกว่า  1
                                                                                                                       ชั่วโมง และออกฤทธิ์ได้นานถึง 4 ชั่วโมง ยาจับกับโปรตีนในพลาสมาได้สูงถึง 98% ในขั้นเม
                                                                                                                                                                                               ั
                                                                                                                                                                                             ู
                                                                                                                       แทบอลิซึมยาอาศัยเอนไซม์ CYP2C9 เป็นหลักและ CYP3A4 เป็นเอนไซม์รอง และถกขบ
   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61