Page 131 - เบญจมาศ คุชนี โรคเบาหวานและคุณประโยชน์ของผักพื้นบ้านไทย 2565
P. 131
ื ก พื น บ้ าน ไท ย ใ น ผู ป่ ว ย โ ร ค เ บ าห ว าน | 119
118 | เ บ ญจมา ศ ค ช นี โ รคเบาหวานและคุณประโยชน์ของผักพ้นบ้านไทยในผ้ป่วยโ รคเบาหวาน | 119
ู
ุ
้
์
้
โ ร ค เ บ าห ว าน แล ะ คุ ณ ป ร ะ โ ย ช น ข อ ง ผั
ิ
ี
มีค่า Ki เท่ากับ 12.43 นอกจากนี้ยังพบอกว่าสารสกัดใบอนทนิลน้้าด้วยน้้ามีสารพฤกษเคม ี แสดงให้เห็นว่าสารสกัดหยาบด้วยเอทานอลมีฤทธิ์ต้านเบาหวานได้ดีกว่าสารส้าคัญบริสุทธิ์
(64)
total phenolics และ total flavonoids สูงกว่าสารสกัดใบอินทนิลน้้าด้วยเอทานอลซึ่งมี ที่แยกออกมาสารสกัดหยาบ
(61)
ความแตกต่างอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติ (p<0.05) นอกจากนี้กลุ่มวิจัยได้ศึกษาฤทธิ์ต้านลิปิดเปอร์ออกซิเดชันและฤทธิ์ยับยั้งการ
สลายไขมนในเซลลไขมนหนขาว พบว่าสารสาคญของกระเทยม (Allium sativum L.)
้
ี
ั
ู
ั
์
ั
่
มะเดออทมพร หรอ มะเดอชุมพร (Ficus racemasa Linn.) พบมากในภาคใต ้
ื
ุ
ื
่
ุ
ื
(67)
ุ
ิ
่
ี
ุ
ของประเทศไทย สรรพคณทเด่น คือ แก้ไข้ ถอนพษไข้ทุกชนิด รากมะเดื่ออทุมพรจัดเป็น cycloalliin มีฤทธิ์ทั้งสองดังกล่าว ซึ่งอาจมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับฤทธิ์ลดระดับ
้
ื
่
ั
ี
้
หน่งสมนไพรในตารับยาห้ารากซงอยในบญชียาจากสมนไพร จากประกาศคณะกรรมการ ไขมนและนาตาลในเลอด อาจกลาวได้ว่ากระเทยมมีฤทธิ์ต้านเบาหวานผ่านกลไกนี้นั่นเอง
่
ุ
ั
ึ
่
ุ
ึ
ู
้
(68)
พฒนาระบบยาแหงชาต ปี พ.ศ. 2564 ผู้นิพนธ์และคณะวิจย ได้ทดสอบสารสกดจาก ส่วนการศึกษาเปรียบเทียบฤทธิ์ต้านลิปิดเปอร์ออกซิเดชันและฤทธิ์ต้านออกซิเดชันของสาร
ั
ั
ั
ิ
่
้
ุ
ผลมะเดื่ออทุมพรด้วยเอทานอล (70%) โดยศึกษาฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ -amylase ด้วย สกัดส่วนต่าง ๆ ของฟักขาว (Momordica cochinchinensis (Lour.) Spreng.) ในหลอด
่
ั
ิ
วิธีการวิเคราะห์น้้าตาลรีดิซ์ (DNS method) และได้ศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอสระด้วยวิธี ทดลอง พบว่าสารสกัดยอดออนฟกข้าวลวกมีฤทธิ์ต้านลิปิดเปอร์ออกซิเดชันดีกว่าส่วนเยื่อ
(66)
DPPH, ABTS และวิเคราะห์ความสามารถในการรีดิวซ์เฟอร์ริกของสารต้านอนุมูลอสระ หุ้มเมล็ดและผลของฟักข้าว
ิ
ด้วยวิธี FRAP ผลการวิจัยพบว่าสารสกัดหยาบมีฤทธิ์ยับยั้งการท้างานของเอนไซม์ -
ั
amylase โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 7.44±0.23 มคก./มล. และยงพบว่ามีศักยภาพในการ
ิ
ต้านออกซเดชัน ผลการทดสอบด้วยวิธี DPPH มีค่า IC50 เท่ากับ 128.84±52.89 มคก./
มล. และวิธี ABTS มีค่า IC50 เท่ากับ 30.21±2.42 มคก./มล. สวนการทดสอบด้วยวิธี
่
2+
่
FRAP มีค่า FRAP value เท่ากับ 0.58±0.03 มิลลิโมลาร์ Fe /มก. ของสารสกัดหยาบ ซง
ึ
ี
มคาใกลเคยงกบสารมาตรฐานวิตามนซ สรปได้ว่าสารสกดหยาบจากผลมะเด่ออุทมพรม ี
ุ
ุ
ื
ิ
ี
่
้
ั
ี
ั
์
้
่
็
ฤทธิ์ยับยั้งการท้างานของเอนไซม -amylase และตานออกซิเดชัน อยางไรกตาม
จ้าเป็นต้องศึกษาสารพฤกษเคมีที่ส้าคัญของสารสกัดหยาบที่มีฤทธิ์ดังกล่าว และศึกษาใน
ุ
ื่
มนุษย์เพมเติม เพอยืนยันสมบัติของสารสกัดหยาบของผลมะเดื่ออทุมพรในการบ้าบัด
ิ่
่
้
ั
ื
่
โรคเบาหวาน และสามารถสงเสริมให้ประชาชนรับประทานเพอปองกนโรคเบาหวานและ
(62)
ลดระดับน้้าตาลในเลือดต่อไป
พญาวานร หรือ ฮวานง็อก (Pseuderanthemum palatiferum (Nees) Radlk)
มีถิ่นก้าเนิดจากประเทศเวียดนาม แต่มีการปลูกในประเทศไทยอย่างกว้างขวาง โดยใช้วิธี
ึ
ชงดื่มกับน้้าร้อน เนื่องจากมีสรรพคุณลดน้้าตาลในเลือดและต้านมะเร็ง จากการศกษาสาร
สกัดใบพญาวานรด้วยเอทานอล (70%) พบว่ามีฤทธิ์ยับยั้งทั้งเอนไซม์ -amylase และ -
glucosidase โดยมีค่า IC50 11.79 ± 8.10 มก./มล. และ 1.00 ± 0.11) มก./มล.
ตามล้าดับ และยังศึกษาเปรียบเทียบฤทธิ์ยับยั้งทั้งเอนไซม์ -amylase และ -
glucosidase ของสารส้าคัญ stigmasterol และ sitosterol-3-O-b-D-glucopyranoside
ที่พบในพญาวานร พบว่ามีค่า IC50 59.41 ± 8.22 มก./มล. และ 111.19 ± 9.02 มก./มล.
ตามล้าดับ ซึ่งมีความแรงในการยับยั้งเอนไซม์น้อยกว่าสารสกัดหยาบจากใบพญาวานร