Page 103 - เบญจมาศ คุชนี โรคเบาหวานและคุณประโยชน์ของผักพื้นบ้านไทย 2565
P. 103

90 | เ บ ญจมา ศ   ค ช นี    โ รคเบาหวานและคุณประโยชน์ของผักพ้นบ้านไทยในผ้ป่วยโ รคเบาหวาน | 91 | 91
                                                                       ู
 ุ
                                                        ื ก พื น บ้ าน ไท ย ใ น ผู ป่ ว ย โ ร ค เ บ าห ว าน
                     โ ร ค เ บ าห ว าน แล ะ คุ ณ ป ร ะ โ ย ช น ข อ ง ผั
                                                  ์
                                                                       ้
                                                          ้


                  ซิส (บทที่ 2 รูปที่ 2-5) ดังนั้นเมื่อเอนไซม์เหล่านี้ถูกยับยั้งจะท้าให้การดูดซึมกลูโคสเข้าสู่
 4.1  กลไกการออกฤทธิ์ต้านโรคเบาหวานของผักพื้นบ้าน   กระแสเลือดลดลง และช่วยชะลอการเพิ่มระดับน้้าตาลในเลือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหลัง
                  รับประทานอาหาร (postprandial blood glucose)
  ในการพัฒนายาใหม่จากสมุนไพร  หรือ  ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ  เพื่อควบคุมระดับ
                      ▪  ยับยั้งการท้างานของเอนไซม์ hexokinase ซึ่งเอนไซม์นี้มีความส้าคัญในการ
 น้้าตาลในเลือดให้ได้ตามเป้าหมายการรักษาโรคเบาหวานนั้น  ต้องมีความเข้าใจถึงกลไก  เกดปฏิกรยา phosphorylation ของกลูโคสไดผลผลิต glucose-6-phosphate (G-6-P)
                         ิ
                    ิ
                          ิ
                                                         ้
 การเกิดโรคเบาหวาน   บทบาททางสรีรวิทยาของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอินซูลิน  ก่อนเกิดกระบวนการ glycolysis ได้เป็นพลังงาน ATP ดังนั้นการยับยั้งการท้างานของ
 และกลูคากอน  รวมถึงการควบคุมความสมดุลของระดับน้้าตาลในเลือดของร่างกาย  ซึ่งได้  เอนไซม์ hexokinase จะท้าให้สร้าง G-6-P จากกลูโคสได้ช้าลง
 อธิบายเบื้องต้นแล้วในบทที่  1  ส่วนในบทที่  2  ได้กล่าวถึงเภสัชวิทยาของยารักษาโรค
 ์
 เบาหวานแผนปัจจุบันที่ใช้รักษาทางคลินิก ที่มีหลักฐานเชิงประจักษถึงผลการรักษา ข้อมูล
 ทางเภสัชจลนศาสตร์ อาการไม่พงประสงค์ ข้อบ่งใช้ ข้อควรระวัง ข้อห้ามใช้ อันตรกิริยา
 ึ
 ระหว่างยา   อีกทงพิจารณาถึงความเหมาะสมส้าหรับผู้ป่วยในแต่ละราย   ซึ่งจะท้าให้
 ั้
 เชื่อมโยงและมความเข้าใจถึงกลไกการออกฤทธิ์ต้านเบาหวานของผักพื้นบ้านได้ง่ายขึ้น
 ี
 (1, 2)
 ดังนี้  (รูปที่ 4-1)

 ▪  กระตุ้นให้มีการหลั่งอนซูลินมากขึ้น ซ่งอาจอาศัยการสงสญญาณผ่านตัวรับ
 ่
 ั
 ิ
 ึ
 อนซูลินผ่านวิถี phosphatidylinositol-3-kinase (PI3K)/protein kinase B (Akt) หรือ
 ิ
 ผ่านวิถี mitogen activated protein kinase (MAPK) หรือ insulin signaling pathway
 อื่นที่เกี่ยวข้อง
 ิ
 ▪  เพิ่มความไวในการตอบสนองต่ออินซูลิน หรือ ลดการดื้ออนซูลิน ส่วนใหญ่
 เป้าหมายการออกฤทธิ์ คือ ท้าให้เซลล์กล้ามเนื้อและเซลล์ไขมันไวต่ออินซูลินมากขึ้น

 ่
 ู
 ▪  ปกป้องการถกท้าลายของเบต้าเซลล์ในตับออน
 ▪  ยับยั้งการหลั่งกลูคากอน หรือ ลดภาวะกลูคากอนเกินในเลือด
 ▪  เพิ่มการน้ากลูโคสเข้าสู่เซลล์ โดยการกระตุ้นการท้างานของตัวน้าส่งกลูโคส
 (glucose transporter; GLUT)

 ้
 ุ
 ▪  ยับยั้งการผลิตกลูโคส (gluconeogenesis) ผานการกระต้นการทางานของ
 ่
 adenosine 5’ monophosphate activated protein kinase (AMPK) ในเซลล์ตับ และ
 ยับยั้งการสลายไกลโคเจน (glycogenolysis) จากตับ
 ้
 ั
 ์
 ื
 ▪  ยับย้งการย่อยอาหารประเภทคารโบโฮเดรตหรอแปง ด้วยกระบวนการทางาน
 ้
 ของเอนไซม์ เช่น -glucosidase, -amylase เป็นต้น โดยปกติหลังรับประทานอาหาร
 เอนไซม์ทั้งสองชนิดจะย่อยคาร์โบไฮเดรตให้เป็นน้้าตาลโมเลกุลเดี่ยวด้วยปฏิกิริยาไฮโดรไล
   98   99   100   101   102   103   104   105   106   107   108