Page 81 - เบญจมาศ คุชนี โรคเบาหวานและคุณประโยชน์ของผักพื้นบ้านไทย 2565
P. 81

โ รคเบาหวานและคุณประโยชน์ของผักพ้นบ้านไทยในผ้ป่วยโ รคเบาหวาน | 69 | 69
                                                                       ู
                                                          ้
                                                        ื ก พื น บ้ าน ไท ย ใ น ผู ป่ ว ย โ ร ค เ บ าห ว าน
                     โ ร ค เ บ าห ว าน แล ะ คุ ณ ป ร ะ โ ย ช น ข อ ง ผั
                                                  ์
                                                                       ้

 การควบคุมอาหาร

 ี
 การควบคุมอาหารไม่ใช่เพยงการลดปริมาณของอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน   สรุปเนื้อหาและทิศทางในอนาคต
 แต่ต้องค้านึงถึงชนิดของสารอาหารที่ได้รับในแต่ละวัน ควรเลือกบริโภคอาหารที่มีดัชนี  ในการควบคุมระดับน้้าตาลในเลือดให้มีความสมดุล ต้องอาศัยฮอร์โมนที่ผลิตจาก
 น้้าตาลต่้า โดยปริมาณน้้าตาลที่รับประทานทั้งวันต้องไม่เกินร้อยละ 5 ของพลงงานรวม   ตับอ่อน เช่น อินซูลิน กลูคากอน โซมาโตสแตติน ยาที่ใช้รักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน
 ั
 (ประมาณ 3-5 ช้อนชา)  การควบคุมทั้งปริมาณและชนิดของอาหารเป็นสิ่งส้าคัญที่สุดของ  สามารถแบ่งออกได้ตามวิธีการบริหารยา เช่น ยาฉีด (insulin, GLP-1 agonists, amylin
 ผู้ป่วยเบาหวาน ซึ่งสามารถช่วยให้การใช้ยาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
                  analog) หรือ ยารับประทานลดระดับน้้าตาลในเลือด หรือสามารถแบ่งได้ตามกลไกการ
 บริโภคอาหารที่มีกากใยสง   ออกฤทธิ์ของยา
 ู

                                                                                   ่
 ในแต่ละวันควรได้รับประทานอาหารที่มีใยอาหาร 14 กรัม ต่ออาหาร 1,000 กิโล  1.  มีฤทธิ์กระตุ้นการหลั่งของอินซูลิน (insulin secretagogues) ได้แก ยากลุ่ม
 ี
 ้
 แคลอร ควรเลือกรับประทานผลไมรสหวานในปริมาณที่พอเหมาะ อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง   sulfonylureas ยากลุ่ม glitinides
 ได้แก่ เครื่องดื่มที่มีน้้าตาลเป็นส่วนประกอบ รวมทั้งน้้าผึ้ง น้้าผลไม้ และผลไม้ที่มีรสหวาน  2.  มีฤทธิ์เพิ่มความไวในการตอบสนองต่ออินซูลิน (insulin sensitizers) ได้แก่
 จัด              ยากลุ่ม biguanides ยากลุ่ม thiazolidinediones

 ออกก าลังกายชวยลดระดับน้ าตาลในเลือด   3.  มีฤทธิ์ลดการดูดซึมกลับของน้้าตาลเข้าสู่ล้าไส้เล็ก ได้แก่ ยากลุ่ม -
 ่
                  glucosidase inhibitors
 การออกก้าลังกายท้าให้ผ่อนคลาย ลดความเครียด นอกจากนี้ยังช่วยลดระดบ  4.  มีฤทธิ์เพมการท้างานของฮอร์โมนในทางเดินอาหารที่เกี่ยวข้องกับการควบคุม
 ั
                                   ิ่
 ื
 ้
 นาตาลในเลอด ลดความดันโลหิต และท้าให้ระดับไขมันในเลือดดีขึ้น ก่อนออกก้าลังกาย  ระดับนาตาลในเลอด ได้แก ยาออกฤทธิ์คลาย incretin (เช่น GLP-1 agonists, DPP-4
 ้
                        ้
                                                       ้
                        ้
                                 ื
                                         ่
 ควรประเมินสุขภาพด้วยว่ามีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจหรือไม่ ซึ่งควรเริ่มออกก้าลังกายจาก
 ั
 ้
 ่
 เบา ๆ กอน ใหชีพจรเทากบร้อยละ 50-70 ของชีพจรสูงสุด และควรออกก้าลังกาย 150   inhibitors) และ amylin analog
 ่
                          ิ
                                               ่
                                                                                 ้
                                                                                         ่
                                                                                        ้
                                                                                        ู
                                                      ั
                                                                                     ั
 นาทีต่อสัปดาห์  โดยออกก้าลังกายวันละ 30-50 นาที 3-5 วันต่อสัปดาห์   ทศทางการพัฒนายาใหมในการรกษาโรคเบาหวาน โดยเฉพาะสาหรบผปวย
                  โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งมีอบัติการณ์สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากวิถีการด้าเนินชีวิตใน
                                          ุ
                  สงคมปัจจุบันเป็นแบบรีบเร่ง ไมไดค้านึงถงโภชนาการ ไมใสใจออกก้าลังกาย หรือมี
                                                       ึ
                                                ้
                                              ่
                                                                       ่
                   ั
                                                                    ่
                  พฤติกรรมที่เพมความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมากขึ้น ปัจจุบันมีการมุ่งเป้าหมายการรักษาโดย
                              ิ่
                  เพ่มการขบกลโคสออกทางปสสาวะ (เช่น SGLT2 inhibitor) ยับย้งการสลายไกลโคเจน
                                                                         ั
                          ั
                    ิ
                              ู
                                          ั

                                                             ี
                  จากในตับ (glycogen phosphorylase inhibitor) อกทั้งค้นหายาที่ยับยั้งการเกิดปฏิกิริยา
                  ไกลเคชันซึ่งก่อให้เกิด advanced glycation end products (AGEs) น้าไปสู่ภาวะแทรก
                  ซ้อนต่อหลอดเลือดขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ซึ่งหากรุนแรงอาจน้าไปสู่การเสียชีวิตได้
   76   77   78   79   80   81   82   83   84   85   86