Phone

084-2721808

Email

pharmcare.p@msu.ac.th

Opening Hours

จันทร์-ศุกร์ : 8.30 - 16.30 น.

  1. ความเป็นมาน้ำตรีผลา

ตรีผลาเป็นตำรับยาแผนโบราณที่มีการใช้ทั้งทางการแพทย์อายุรเวทของอินเดียและการแพทย์แผนไทยมาเป็นเวลานานนับพันปี ตรีผลามาจากคำว่า “ตรี” ซึ่งแปลว่า สาม และคำว่า “ผลา” แปลว่า ผลไม้ ดังนั้นตรีผลาจึงเป็นตำรับยาที่ประกอบด้วยผลไม้ 3 ชนิด คือ มะขามป้อม (Phyllanthus emblica Linn.) สมอไทย (Terminalia chebula Retz. และ สมอพิเภก (Terminalia belerica (Gaertn.) Roxb.) ทางการแพทย์อินเดียใช้ปรับความสมดุลของธาตุทั้ง 4 ในร่างกายและล้างพิษออกจากระบบต่างๆ โดยเฉพาะระบบทางเดินอาหาร ระบบเลือดและน้ำเหลือง กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้มีอายุยืน นอกจากนี้ตรีผลายังทำหน้าที่เป็นยาระบายที่รู้เปิดรู้ปิดได้เอง นั่นคือ ทำให้ร่างกายระบายอุจจาระและหยุดขับถ่ายได้อย่างรู้จังหวะเวลา ไม่ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ซึ่งเป็นผลที่เกิดจากสารรสเปรี้ยวช่วยให้ระบายและสารรสฝาดพวกแทนนิน ช่วยให้หยุดระบาย 

  1. ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา

จากการทดสอบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา พบว่าตรีผลามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและลดอาการอักเสบที่ดี (Dhanalakshmi et al., 2006, Sabina et al, 2007) ช่วยป้องกันอันตรายจากการฉายรังสี (Jagettia et al, 2002) กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน (Srikumar et al, 2005 and 2007)  ช่วยลดระดับไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือด (Saravanan et al., 2007) และในคนที่มีอาการท้องผูกเป็นประจำ หากรับประทานผงตรีผลาวันละ 5 กรัม จะช่วยให้การขับถ่ายอุจจาระเป็นปกติได้ (Mukherjee et al, 2006) นอกจากนี้สารสกัดตรีผลายังมีฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็งได้อีกด้วย (Wongnoppavich et al., 2009) จากการทดสอบฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็ง 3 ชนิด คือ มะเร็งเต้านม (MCF-7) มะเร็งตับ (HepG2) มะเร็งท่อน้ำดี (KKU M213) และทดสอบความเป็นพิษต่อเซลล์ Vero cell line พบว่าสารสกัดตรีผลาสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้ทั้ง 3 ชนิด โดยมีค่า IC50 ต่อ MCF-7,  HepG2,  KKU M213 เท่ากับ 38.55, 67.93, 46.76 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ในขณะที่ไม่เป็นพิษต่อเซลล์ Vero โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 395.5 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร 

  1. ตรีผลาฟาร์มแคร์

การใช้ตรีผลาในยาแผนโบราณ มักใช้ในรูปแบบยาต้ม ซึ่งรสชาติไม่เป็นที่พึงปรารถนา แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพดีแต่ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร ทำให้ผู้บริโภคขาดโอกาสที่จะได้รับประทานสมุนไพรที่มีศักยภาพสูงทั้ง 3 ชนิดนี้ โรงงานฟาร์มแคร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จึงมีความคิดที่จะทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสได้รับประโยชน์จากยาตรีผลามากขึ้น จึงได้พัฒนายาตรีผลาออกมาในรูปเครื่องดื่มสุขภาพที่ผ่านการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน ไม่เจือสีสังเคราะห์ ดื่มง่าย รสชาติอร่อย สามารถดื่มได้ทุกวัน ไม่ทำให้ท้องเสีย เหมาะกับทุกเพศทุกวัย มีสารกลุ่มฟีนอลิกที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทำหน้าที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่เกิดจากสภาวะเครียด มลพิษหรือสารตกค้างในร่างกาย จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น การดื่มน้ำตรีผลาฟาร์มแคร์ จึงให้ทั้งความสดชื่น บำรุงร่างกาย  เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ปรับความสมดุลของร่างกาย บำรุงธาตุ ลดธาตุไฟในร่างกาย ไม่ให้ร่างกายร้อนเกินไป ซึ่งมักพบในคนที่มุ่งมั่นทำงานมากเกิน  โกรธง่าย มีความเครียดบ่อย ๆ  ถูกแดดจัด อ่อนเพลียจากความร้อน ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ กระหายน้ำมาก รู้สึกร้อน และนอนไม่ค่อยหลับ เป็นโรคที่ทำให้ร่างกายมีความร้อนสูงขึ้น เช่น ไข้ หรือเป็นโรคที่เกี่ยวกับการอักเสบ เช่น โรคกระเพาะ โรคริดสีดวงทวาร โรคที่เกิดจากความผิดปกติของตับ โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น และยังช่วยสามารถป้องกันโรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดจากสารอนุมูลอิสระได้หลายชนิด เช่น ความดันโลหิตสูง โรคมะเร็ง เป็นต้น เหมาะสำหรับการดื่มเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน

  1. ทำไมถึงมาเป็น น้ำตรีผลาสูตรน้ำตาลน้อย (Low sugar)

เนื่องจากปัจจุบันนี้มีผู้ป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมากขึ้น ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการบริโภคอาหารที่ปริมาณน้ำตาล ไขมัน และโซเดียม มากเกินไป ประกอบกับผู้บริโภคได้ให้ความใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ไม่อยากให้ร่างกายอ้วน ต้องการบริโภคน้ำตาลให้น้อยลง ประชาชนจำนวนมาก โดยฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวานทราบดีว่าน้ำตรีผลาฟาร์มแคร์สูตรดั้งเดิม มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก แต่ไม่อยากได้รับน้ำตาลเพิ่ม ทางฟาร์มแคร์จึงพยายามที่จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม จึงได้พัฒนาน้ำตรีผลาสูตรน้ำตาลน้อย (Low sugar) ขึ้นมา เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าว

  1. แนวทางการคิดค้นสูตรตรีผลาน้ำตาลน้อย

เพื่อให้คุณประโยชน์และประสิทธิภาพของน้ำตรีผลายังคงเดิม ทางฟาร์มแคร์จึงคงสัดส่วนของสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดไว้คงเดิม โดยลดปริมาณน้ำตาลทรายหรือน้ำตาลซูโครสลง และเพิ่มสารให้ความหวานจากธรรมชาติตัวอื่นเข้าไปแทน โดยใช้ไอโสมอลทูโลส ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีโครงสร้างคล้ายกับน้ำตาลทรายมากที่สุด แต่ร่างกายใช้เวลาย่อยและดูดซึมนานกว่าน้ำตาลทรายถึง 4 เท่า ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่ขึ้นสูงอย่างรวดเร็วหลังรับประทาน และเป็นน้ำตาลที่มีค่า GI ต่ำ ให้พลังานต่ำกว่าน้ำตาลทราย เมื่อดื่มตรีผลาสูตรน้ำตาลน้อยเข้าไป ร่างกายจะดูดซึมไอโสมอลทูโลสไปใช้อย่างช้า ๆ ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็วเหมือนการบริโภคน้ำตาลทราย จึงเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน 

  1. สัญลักษณ์โภชนาการ “ทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice)”

น้ำตรีผลาสูตรน้ำตาลน้อยได้รับอนุญาตให้ใช้สัญลักษณ์โภชนาการ “ทางเลือกสุขภาพ” บนฉลาก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่าน้ำตรีผลาสูตรน้ำตาลน้อยได้ผ่านการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้วว่ามีปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสม ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง 

  1. น้ำตรีผลาสูตรน้ำตาลน้อยเหมาะกับกลุ่มคนประเภทไหน

น้ำตรีผลาสูตรน้ำตาลน้อย เหมาะกับกลุ่มคนผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ ต้องการลดการบริโภคน้ำตาล แต่ยังต้องการรสชาติที่อร่อย ดื่มง่าย รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง และผู้ที่ต้องการลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เรียกได้ว่าน้ำตรีผลาสูตรน้ำตาลน้อยเป็นสูตรป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรังคูณสอง คือ ในน้ำตรีผลา มีสารฟีนอลิก (Phenolic compound) จากสมุนไพร 3 ชนิด ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีฤทธิ์ป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหรือโรคระบบหลอดเลือดและหัวใจ โดยตรงอยู่แล้ว ยังมีปริมาณน้ำตาลน้อยอีกด้วย จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้ถึง 2 เท่า