มาสร้างภูมิคุ้มกันต้านเชื้อไวรัส COVID-19 กัน
เป็นที่ทราบกันดีว่าคนที่สัมผัสเชื้อโรคต่างๆ รวมทั้งเชื้อไวรัส COVID-19 ใช่ว่าทุกคนจะติดเชื้อนั้น เนื่องจากร่างกายเรามีกลไกในการป้องกันและกำจัดเชื้อโรคอยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งเปรียบเสมือนกับกำแพงเมือง ด่าน หรือป้อมปราการที่สร้างไว้สำหรับเป็นเครื่องกีดขว้าง สกัดกั้นหรือดักจับทำลายเชื้อโรค เพื่อไม่ให้เข้าไปทำอันตรายเซลล์ เนื้อเยื่อ หรืออวัยวะที่ทำหน้าที่สำคัญๆ ภายในร่างกายจนเกิดเป็นโรคร้ายแรงได้ ด่านแรกที่สำคัญคือผิวหนัง จะป้องกันไม่ให้เชื้อโรคต่างๆ เข้าสู่ร่างกายได้ ดังนั้นหมั่นดูแล ระมัดระวังอย่าให้มีบาดแผลเกิดขึ้นกับร่างกายของเราเด็ดขาดนะครับ อย่างไรก็ตามร่างกายเราก็มีช่องเปิดหลายช่องเช่นจมูกและปาก เป็นช่องทางที่เชื้อโรคเข้ามาได้ เมื่อมาถึงขั้นนี้ก็ใช่ว่าร่างกายเราจะเป็นโรคในทุกคนที่ได้รับเชื้อโรค เนื่องจากร่างกายเรามีด่านที่สอง คอยสกัดกั้นเชื้อโรค โดยการขับสารเคมีและเม็ดเลือดขาว ที่เราเรียกว่าระบบภูมิคุ้มกัน มาคอยทำลายเชื้อโรค ถ้าภูมิคุ้มกันเราดีหรือมีประสิทธิภาพ ร่างกายเราก็จะสามารถกำจัดเชื้อโรคได้หมด เราก็ไม่เป็นโรค แล้วต้องทำอย่างไรให้เรามีภูมิคุ้มกันที่ดี มีวิธีปฏิบัติโดยทั่วไปดังนี้
1. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
2. ออกกำลังกายเป็นประจำ
3. ทำจิตใจให้เบิกบาน
4. รับประทานอาหารหรือสมุนไพรที่มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน
สามข้อแรกเราคงรู้กันเป็นอย่างดีแล้วว่ามีประโยชน์อย่างแน่นอน เนื่องจากเราถูกสอนกันมาตั้งแต่ชั้นอนุบาลแล้ว และเป็นเช่นนั้นจริงๆ มีข้อแม้ว่าต้องปฏิบัติด้วยจึงจะได้ผล สำหรับข้อสี่ ก็เป็นส่วนเสริมให้ร่างกายแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งบ้านเราก็อุดมไปด้วยสมุนไพรที่มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกันเป็นจำนวนมาก วันนี้ขอแนะนำสมุนไพรเดี่ยวและสมุนไพรตำรับที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่ดีมากและใช้กันมานานมาก คือ ขมิ้นชัน และตรีผลา
ขมิ้นชัน (Curcuma longa L.)
นอกจากที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีว่าขมิ้นชันมีสรรพคุณแก้ท้องอืดท้องเฟ้อได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังมีงานวิจัยเป็นจำนวนมากที่รายงานเกี่ยวกับฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกันและต้านการอักเสบของขมิ้นชัน โดยสารสำคัญที่ออกฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกันเป็นสารกลุ่มเคอร์คิวมินอยด์ (curcuminoids) ซึ่งสามารถไปกระตุ้นเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันหลายชนิดให้มีการทำงานดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น แมคโคฟาจ (macrophage) เซลล์เดนไดรท์ (dendritic cells) บี ลิมโฟไซต์ (B lymphocyte) ที ลิมโฟไซต์ (T lymphocyte) รวมทั้งไปกระตุ้นเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการต้านการอักเสบอีกหลายชนิด เช่น ไซโตไคน (cytokine) นอกจากนี้ขมิ้นชันยังออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ และมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์บางชนิดอีกด้วย ขมิ้นชันจึงเป็นสมุนไพรที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งในการป้องกันร่างกายและได้รับยอมรับกันทั่วโลก
ตรีผลา
ตรีผลาเป็นตำรับยาแผนโบราณที่มีการใช้ทั้งทางการแพทย์อายุรเวทของอินเดียและการแพทย์แผนไทยมาเป็นเวลานานนับพันปี ตรีผลามาจากคำว่า “ตรี” ซึ่งแปลว่า สาม และคำว่า “ผลา” แปลว่า ผลไม้ ดังนั้นตรีผลาจึงเป็นตำรับยาที่ประกอบด้วยผลไม้ 3 ชนิด คือ มะขามป้อม (Phyllanthus emblica Linn.) สมอไทย (Terminalia chebula Retz.) และ สมอพิเภก (Terminalia belerica (Gaertn.) Roxb) มีสรรพคุณช่วยปรับความสมดุลของธาตุทั้ง 4 ในร่างกายและล้างพิษออกจากระบบต่างๆ โดยเฉพาะระบบทางเดินอาหาร ระบบเลือดและน้ำเหลือง ตรีผลามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ลดอาการอักเสบ และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ที่ดี เนื่องจากมีสารสำคัญกลุ่มฟีนอลิก ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินซีหลายเท่า
ทางการแพทย์แผนไทยใช้ตรีผลาเป็นยาลดธาตุไฟในร่างกาย ไม่ให้ร่างกายร้อนเกินไป สำหรับธาตุไฟไม่สมดุลเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น คนที่มุ่งมั่นทำงานมากเกิน โกรธง่าย มีความเครียดบ่อยๆ ถูกแดดจัด อ่อนเพลียจากความร้อน ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ กระหายน้ำมาก รู้สึกร้อน และนอนไม่ค่อยหลับ เป็นโรคที่ทำให้ร่างกายมีความร้อนสูงขึ้น เช่น ไข้ หรือเป็นโรคที่เกี่ยวกับการอักเสบ เช่น โรคกระเพาะ โรคริดสีดวงทวาร โรคที่เกิดจากความผิดปกติของตับ โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ควรรับประทานตรีผลาเป็นประจำ จะช่วยป้องกันธาตุไฟกำเริบได้ ทางการแพทย์แผนไทยจึงได้กำหนดให้ตรีผลาเป็นยาปรับธาตุประจำฤดูร้อน
โรงงานฟาร์มแคร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้พัฒนายาตรีผลาออกมาในรูปเครื่องดื่มสุขภาพที่ผ่านการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน ไม่เจือสีสังเคราะห์ ดื่มง่าย รสชาติอร่อย สามารถดื่มได้ทุกวัน ไม่ทำให้ท้องเสีย เหมาะกับทุกเพศทุกวัย มีสารกลุ่มฟีนอลิกที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จึงให้ทั้งความสดชื่น บำรุงร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ปรับความสมดุลของร่างกาย บำรุงธาตุ ลดธาตุไฟในร่างกาย ไม่ให้ร่างกายร้อนเกินไป เหมาะสำหรับการดื่มเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน