Page 220 - Microsoft Word - ANS 1 ËŽ
P. 220
Pharmacology of Drugs acting on PNS อชิดา จารุโชติกมล
ี
ตาปดเกร็ง พบวารักษาไดผลดีและมีผลขางเคียงนอยมาก แตผลการรักษาจะอยูไดเพยง 4–6
เดือน ในป ค.ศ. 1989 ไดรับการรับรองจากองคการอาหารและยาของประเทศสหรัฐฯ (U.S.
FDA) สําหรับรักษาอาการตาเหล ตาปดเกร็ง และอาการใบหนากระตุกครึ่งซีก ใหใชในผูปวยที่มี
อายุ 12 ปขึ้นไป
ตาเหล ตาเข : ปริมาณยาที่ใช ประมาณ 1.25-2.5 ยูนิต/กลามเนื้อ หากอาการยังคงอยู
ิ
ี
หรือเกดอาการอกสามารถฉีดซ้ําไดภายใน 7-14 วัน และอาจเพมปริมาณยาไดเปน 2 เทา แตไม
ิ่
ู
ิ
้
ั
ิ
้
เกน 25 ยนต/กลามเนือ/ครง
ตาปดเกร็ง และโรคใบหนากระตุกครึ่งซีก : ปริมาณยาที่ใช คือ เริ่มตน 1.25-2.5 ยูนิต/
ํ
ิ
ี
้
ื
ุ
จด แตไมเกน 25 ยูนิต/ดวงตา 1 ขาง อาจฉดซาไดหากไมเหนผลหลังจากผานไป 2 เดอน โดย
็
ึ
ปริมาณยาสูงสุดภายใน 2 เดือนไมควรเกิน 200 ยูนิต ไดผลการรักษาที่ดีถง 85% ในบัญชียา
หลักแหงชาติไดระบุเงือนไขใหใช BoNT ในขอบงใชนี้
ี้
การฉีด BoNT รอบดวงตา ควรแนะนําใหใชยาหยอดตา ขผึ้ง คอนแทคเลนส หรือ
ุ
อปกรณพิเศษทางการแพทยเพอชวยปกปองดวงตา และอาการจะดีขนภายใน 1-3 วัน ยาจะ
ื่
ึ้
แสดงประสิทธภาพชัดเจนในเวลา 2-6 สัปดาหหลังการฉีด ผูปวยอาจมีอาการหนังตาตก ลืมตา
ิ
ไมขึ้น อาจตองหาอุปกรณชวยยึดดึงหนังตาขึ้นเพื่อใหลืมตาได
2.2 โรคคอบิด (cervical dystonia)
เปน focal dystonia ที่พบไดบอยที่สุด รองลงมาคือเปลือกตากระตุก และอนดับสาม
ั
คือโรคสายเสียงตึง อาการหดเกร็งคางของกลามเนื้อที่คอในบัญชียาหลักแหงชาติไดระบุเงื่อนไข
็
้
ี
ี
การใช BoNT สําหรับขอบงใชน การฉด BoNT จะเหนผลในการรักษาชา คือ 2 สัปดาหหลังการ
ฉีด และจะเห็นผลชัดเจนหลังจากฉีดยาไปแลว 6 สัปดาห
ฉีดที่ผิวหนังบริเวณคอ ปริมาณยาที่ใช คือ 95-360 ยูนิต ขึ้นอยูกับตําแหนงที่มีอาการ
ลักษณะอาการปวด และการตอบสนองของรางกาย แตไมควรเกน 50 ยูนิต/จุด/ครั้ง ปริมาณยา
ิ
สูงสุดในเวลา 3 เดือนไมควรเกิน 360 ยูนิต
~ 198 ~